Terindex Banyak: August 2020

Monday, August 31, 2020

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมลง - อาร์วายที9

terindexbanyak.blogspot.com

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะซึมตัวลง เนื่องจากตลาดฯไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา ประกอบกับคาดการณ์ว่าปัจจัยการเมืองมีโอกาสที่จะร้อนแรงขึ้นในเดือนก.ย.นี้ และหุ้นไทยปัจจุบันถือว่าแพงแล้ว เมื่อเทียบ P/E ปีหน้าอยู่ที่ 17.1 เท่า จากอดีตเทรด P/E 15-16 เท่า รวมถึงตลาดบ้านเราก็ไม่มีหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีช่วยหนุน ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานก็มีน้ำหนักในตลาดมาก และเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงด้วย จึงน่าจะเป็นปัจจัยถ่วงตลาด

นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติก็ขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน อย่างไร้ทิศทางชัดเจน พร้อมให้แนวรับ 1,300 ถัดไป 1,292-1,290 จุด ส่วนแนวต้าน 1,320-1,330 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (31 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,430.05 จุด ลดลง 223.82 จุด (-0.78%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,500.31 จุด ลดลง 7.70 จุด (-0.22%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,775.46 จุด เพิ่มขึ้น 79.83 จุด (+0.68%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 50.13 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.94 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 91.38 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 25.94 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 10.70 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 16.34 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 ส.ค.63) 1,310.66 จุด ลดลง 12.65 จุด (-0.96%)
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,428.85 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ส.ค.63
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (31 ส.ค.63) ปิดที่ 42.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.8%
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (31 ส.ค.) อยู่ที่ -0.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 31.04/09 แนวโน้มแข็งค่า มีโอกาสหลุด 31.00 ขานรับตัวเลขส่งออกไทยหดตัวน้อยลง-จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ
แบงก์ชาติ เผยเศรษฐกิจไทย เดือน ก.ค.ดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังห่วงการระบาดของโควิด-19 แถบประเทศเพื่อนบ้าน หวั่นทำในประเทศระบาดรอบสอง ยอมรับหากต้องปิดเมือง อาจฉุด GDP หดตัวลึกกว่าคาด พร้อมห่วงภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวช้า ส่อกระทบเศรษฐกิจปีหน้า ขณะที่ลงทุนเอกชนยังติดลบหนัก เหตุเอกชนกังวลความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า
รฟม.จัด Market Sounding รถไฟฟ้านครราชสีมา มูลค่า 7.1 พันล้านบาท คาดชง ครม. กลางปี 64 สัมปทาน 30 ปี เปิดปี 68 ค่าโดยสาร 10-21 บาท เอกชนติงรูปแบบ PPP-Net Cost เสี่ยงสูง หวั่นไม่คุ้มค่า
'สุพัฒนพงษ์' รมว.พลังงานคงเป้าหมายแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว ปี 2580 ประกอบด้วย แผนพีดีพี อีอีพี เออีดีพี ก๊าซ และน้ำมัน แต่ตั้งเงื่อนไขวัดผลสำเร็จทุกปี ลุยกำหนดน้ำมัน เชื้อเพลิงชีวภาพ บี10 และอี20 เป็นน้ำมันฐาน ยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 อี85 และแก๊สโซฮอล์ 95 ตามลำดับ กำหนดสัดส่วนจัดหาก๊าซจากอ่าวไทย 28% เมียนมา 4% และแอลเอ็นจี 68% ด้าน ธพ.เผยยอดใช้น้ำมัน 7 เดือนลด 13.8% ชี้อี85 ลดมาก 29% ขณะที่น้ำมันอากาศยานยังน็อก ลดมากถึง 53.5%
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ปรับดีขึ้น ตามการใช้จ่ายภาครัฐและการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองทั้งในและต่างประเทศ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังหดตัวติดลบที่ 100% เพราะมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทยยังคงมีอยู่ ส่งผลให้ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทย ซึ่งต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แล้ว
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ ธปท.และสถาบันการเงินได้เริ่มโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ทั้งภาคธุรกิจและลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ลูกหนี้รายย่อย วิธีคือสามารถนำสินเชื่อรายย่อยของผู้ให้บริการทางการเงินเดียวกัน เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อที่เกิดจากการให้เช่าซื้อ มาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยวิธีการรวมหนี้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อใช้ประโยชน์จากหลักประกัน ทำให้ดอกเบี้ยลดลงเหลือไม่เกินอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (เอ็มอาร์อาร์) และทำการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ตามความสามารถของลูกหนี้ รวมทั้งทางเลือกในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้รูปแบบอื่น ๆ ที่ลูกหนี้สามารถจะดำเนินการทำให้ได้เพื่อประโยชน์ทุกฝ่าย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้หารือกับบริษัทนำเที่ยว เตรียมจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวภายในประเทศเสนอขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานและศึกษาต่อในประเทศไทย (เอ็กซ์แพท) และกลุ่มคนไทย โดยต้องเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ชุมชนต้องได้รับประโยชน์ เช่น เส้นทางท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว โดยมีกิจกรรมตีกอล์ฟให้กับกลุ่มพ่อบ้าน ส่วนกิจกรรมของกลุ่มแม่บ้านก็จัดให้เที่ยวชุมชนใกล้ ๆ สนามกอล์ฟ เพื่อไปทำกิจกรรมท่องเที่ยวและเลือกซื้อสินค้าของชุมชน เพื่อให้ภาพรวมรายได้ของตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศรวมตลอดปีนี้แตะที่ 1.23 ล้านล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

TVO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 31 บาท เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งในฐานะผู้นำเข้าถั่วเหลือง ขณะที่แนวโน้มกำไร H2/63 คาดยังทรงตัวในระดับที่ดีจากปริมาณขายกากถั่วเหลืองที่สูงขึ้น และแนวโน้มการฟื้นตัวของราคาถั่วเหลืองใน Q4/63 พร้อมคาดกำไรปกติปี 2563 +15% Y-Y และโตต่อเนื่องอีก +12% Y-Y ในปี 2564 ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายที่ 2564PER เพียง 12 เท่า และให้ Dividend Yield ถึง 6.8% ต่อปี
BDMS (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 23.5 บาท ได้ Sentiment บวกจากภาครัฐผ่อนคลายเกณฑ์ Medical Tourists โดยเพิ่มจำนวนประเทศที่สามารถเข้ามารักษาพยาบาลตามโปรแกรม AHQ (ต้องกักตัวในโรงพยาบาล 14 วัน) จากเดิม 3 ประเทศ เป็น 138 ประเทศ

Let's block ads! (Why?)

September 01, 2020 at 09:29AM
https://ift.tt/32MA1mh

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมลง - อาร์วายที9
https://ift.tt/3eDfmFv
Home To Blog

국회 행안위 전체회의 - 한국경제

terindexbanyak.blogspot.com

1일 오전 서울 여의도 국회에서 열린 행정안전위원회 전체회의에 앞서 서영교 행정안전위원장과 황서종 인사혁신처 처장이 인사하고 있다.

김범준기자 bjk07@hankyung.com

진영 행정안전부 장관이 1일 오전 서울 여의도 국회에서 열린 행정안전위원회 전체회의에 앞서 관계자와 자료를 살피며 대화를 나누고 있다.

김범준기자 bjk07@hankyung.com

김창룡 경찰청장이 1일 오전 서울 여의도 국회에서 열린 행정안전위원회 전체회의에 앞서 물을 마시고 있다.

김범준기자 bjk07@hankyung.com

Let's block ads! (Why?)

September 01, 2020 at 09:11AM
https://ift.tt/2QGZ8kF

국회 행안위 전체회의 - 한국경제

https://ift.tt/2YvgG6T

インデックス・ファンドとは - アセットアロケーションの意味も紹介 - マイナビニュース

投資の初心者にとって投資の判断の目安となるのは「リスクが少ないこと」「運用がわかりやすいこと」「コストがかからないこと」ではないでしょうか。その3つの条件を考慮したとき、選択肢のひとつとなってくるのがインデックス・ファンドという金融商品です。

インデックス・ファンドは運用を専門家に任せることができ、値動きもわかりやすい商品です。さらに、少額投資非課税制度の「つみたてNISA」を活用すれば、定額を積み立てながら投資することも可能です。

本記事ではわかりやすく、面倒な手続きもないインデックス・ファンドについて、基礎から解説します。

インデックス・ファンドとは?

インデックス・ファンドは投資信託の一種です。投資信託を簡単に説明すると、多くの人のお金を集めて株や債券、不動産、コモディティ(金や原油、穀物といった商品先物)を購入し、運用する仕組みです。

運用の仕方によって、投資信託にもさまざまな種類がありますが、インデックス・ファンドは日経平均株価や東証株価指数、NASDAQ総合指数のように株価の指数に連動するものや、NOMURA-BPIやシティグループ世界国債インデックスのように債券指数に連動するもの、東証REIT指数のようにREIT指数に連動するもの、CRB指数のように国際商品先物指数に連動するものがあります。

日本の代表的な企業の株225を選びだし、その株価を平均し、日本の株全体の値動きを指し示すのが日経平均株価指標です。そのほかにも東証一部に上場された全銘柄の時価総額をもとに出したTOPIXという指標もあります。

それ以外にもこのような株価全体の動きに連動しているのが、インデックス・ファンドです。NYダウやMSCIワールド・インデックスのように海外の指標に連動するインデックス・ファンドもあります。

インデックス・ファンドとETFの違い

インデックス・ファンドと同様に、指標に連動して運用されている金融商品として、ETFがあります。インデックス・ファンドとETFの違いをここでまとめてみました。

	インデックス・ファンド	ETF
上場/非上場	非上場	上場
販売会社	証券会社・銀行	証券会社
取引時間	申込期間中の 9時～15時	証券取引所の取引時間中
購入価格	基準価額 (1日1回算出)	リアルタイムで変動する
注文方法	基準価額がわからない状態で行う	成行・指値注文ができる
売買手数料	投資信託ごと、販売会社ごとに異なる手数料がかかる	証券会社ごとに異なる手数料がかかる
信託報酬	信託報酬がかかるが無料のものもある	信託報酬がかかるが一般的な投資信託と比較して安い
最低投資金額	1万円程度から可能	1万円程度から可能
積立方式	積み立てが可能	積立方式がない

大きな違いは3点です。

ETFはリアルタイムで決まる市場価格で取引することができるのに対し、インデックス・ファンドは1日1回算出される基準価額で取引されること
信託報酬がETFの方が安いこと
インデックス・ファンドは毎月定額で投資し、運用を任せられることが可能であるのに対し、ETFは積み立て運用ができる種類がほとんどないこと

投資しながら相場について勉強し、売買のタイミングを見極めながら、少しでも利回り面で有利なものを運用したい方はETFが向いており、運用はプロに任せ毎月積み立てながらコツコツと投資がしたい方は、インデックス・ファンドが向いていると言えます。

インデックス・ファンドのメリット・デメリット

投資初心者にとってのインデックス・ファンドのメリット・デメリットを押さえておきましょう。

インデックス・ファンドのメリット

インデックス・ファンドには大きく分けて、以下の3点のメリットがあります。

1．値動きがわかりやすい
日経株価平均やTOPIXと連動しているため、値動きがわかりやすくなっています。株価は個別銘柄で購入するため、ある企業の株価が上がるか下がるかというのは不確定要素が多く、投資初心者にとってはリスクが高くなっています。

それに対してインデックス・ファンドは、何を買ったらいいのかわからない初心者であっても、購入した投資信託がどういう状況にあるのか、ニュースを見ているだけでおおよそ把握することができます。

2．投資信託を介して外国株にも投資できる
インデックス・ファンドにはダウ平均株価やNASDAQ総合指数、MSCIコクサイ・インデックスのように、海外の指数に連動した投資信託もあります。外国のインデックスに連動した投資信託を介することで、外国株に投資でき、日本国内株のみの場合よりも、リスクを分散することができます。

3．運用コストが低い
投資信託は売買手数料のほかに、保有しているだけでお金がかかる「信託報酬」というものがあります。対して、インデックス・ファンドには「ノーロード」といって運用手数料が無料のものがあります。

インデックス・ファンドのデメリット

1．元金が保証されていない

インデックス・ファンドは預金とは異なり元金が保証されていないため、元金割れのリスクがあります。また、期待できる年間リターンは数%～15%程度で、株のように大きく利益をあげられません。

しかし「儲かる商品を予想して利益をあげる」のではなく、「持っている資産を成長させる」という考え方は、投資初心者にとって、最適な投資方法と言えます。

初心者に最適! つみたてNISAを活用したインデックス・ファンド

少額投資非課税制度を活用しながら、インデックス・ファンドをもっと有利に進める方法について説明します。

長期の積み立て・分散投資に適したつみたてNISA

NISAとは2014年にスタートした少額投資非課税制度のことです。年間投資120万円までなら、投資した年から最長5年間、投資によって得られる利益には課税されないというものです。

通常、投資によって得られた利益に対して約20%の税金(所得税15%、住民全5%、復興特別所得税0.315%)がかかります。NISAは一定の条件さえ満たせば、この税金が非課税になるという制度です。

さらに2018年から「つみたてNISA」が誕生しました。つみたてNISAは年間投資上限額が40万円までで、最長20年間、コツコツと積み立て続けられるというものです。

インデックス・ファンドはNISAにぴったりの商品

つみたてNISAで運用できるのは投資信託のみで、インデックス・ファンドが対象になっている商品も数多くあります。つみたてNISAが利用できるインデックス・ファンドは、購入手数料が0円、最低積立額も100円からというハードルの低い商品があります。

インデックス・ファンドのアセットアロケーション

長期投資では、リスクを回避するために分散投資がポイントとなります。分散投資をするにあたり、資産をどのように配分するかが大切ということです。インデックス・ファンドで最も重要なのが、アセットアロケーションとも言われています。

アセットアロケーションとは?

アセットアロケーションとは、資産(asset)をどのように割り当てるか(allocation)という意味です。投資対象がかたよってしまうと、長期投資の場合、リスクが過剰に高まってしまいます。そのため投資を行う場合は、異なる資産で運用する投資信託と組み合わせて積み立てる必要があります。

アセットアロケーションの構成要素

インデックス・ファンドは株価指数に連動するものや債券指数に連動するもの、REIT指数に連動するもの、コモディティ指数に連動するものがありますが、その中で何に投資するかによって、利回りやリスクが異なってきます。また、日本の株価や債券に連動するものか、日本以外の先進国の株価や債券に連動するものか、新興国の株価や債券に連動するものかによる違いも大きくなっています。ここではそれぞれのメリット・デメリットを見てみましょう。

		メリット	デメリット
株式	国内株式	値動きがわかりやすい	リスクが高い
	外国株式	国内株式よりも高い成長が期待できる	国内株式よりもリスクが高い。為替相場の影響も受けやすい
	新興国株式	潜在的な成長力が高い	先進国以上にリスクが高い
債券	国内債券	安定的な運用が期待できる	大きな利益は期待できない
	外国債券	国内債券よりも高いリターンが期待できる	為替相場の影響を受ける分だけリスクが高くなる
	新興国債券	外国債券よりも高いリターンが期待できる	政府等の破綻によって大きな損失を被るリスクがある
REIT	J-REIT	国内の株式と似た値動きより高いリターンが期待できる	国内株式よりもややリスクが高い

これらの特徴を念頭に置いて、アセットアロケーションを考えていきます。たとえば国内株式を35％、外国株式を20％、新興国株式を10％、国内債券を20％、外国債券を15％購入すると決めたとします。

この組み合わせを元に投資できるインデックス・ファンドを選んでいきます。

バランスファンドという方法

つみたてNISAの中には、アセットアロケーションの決定をファンド側でしてくれるバランスファンドという商品もあります。

バランスファンドの中にも、国内資産のみによるバランス型や、新興国を含む国内外の株式、債券、REITの8指数をまとめたバランス型のようにさまざまなものがあります。

インデックス・ファンドをつみたてNISAで始める

つみたてNISAでインデックス・ファンドを始める方法を紹介します。

つみたてNISAの口座を開設する金融機関を選ぶ

つみたてNISAの口座は、銀行でも証券会社でも開設できますが、どこの金融機関で口座を開くかは重要です。なぜなら金融機関によって取り扱うインデックス・ファンドも異なってくるためです。自分が積み立てようと考えている商品を取り扱っている金融機関でないと、その投資信託を購入することはできません。

自分で商品を選びたい方は、その商品を取り扱っている金融機関を選びます。自分で商品を選ぶのが難しい方は、金融機関を選ぶところから始めましょう。

ここでは各金融機関のメリット、デメリットについて簡単にまとめました。

金融機関	メリット	デメリット
銀行	・日常的に利用している口座を投資信託の口座として利用できる・口座開設から売買の手続きまで、担当者に相談しながら任せることができる	・選択できる金融商品が限られている・販売手数料、運用管理手数料が他の金融機関に比べて高い
証券会社	・金融商品の種類・情報量が豊富・投資の専門家が相談に乗ってくれる	・販売手数料、信託報酬がかかる
オンライン証券	・口座開設までの期間が早い・自分の都合の良いタイミングで売買できる・Webサイトの情報量が豊富・購入手数料が無料のものも多く、低コストで運用できる	・自分で調べ、自分で決めなければならない

オンライン証券の中には、オンライン銀行と連動させることで、手数料や金利の面で優遇措置を受けることができたり、資産管理が簡単になったりする場合もあります。銀行のオンライン口座を持っている場合は、その口座とリンクできる証券会社がないかを確認してください。

口座を開設する

金融機関を選んだら、つみたてNISAの非課税口座を開きます。口座開設にはマイナンバーカードと本人確認書類が必要になるので用意しておきましょう。

証券会社からNISAのページへ行き、申し込みを行います。フォームに入力し、マイナンバーカードと本人確認書類をアップロードすれば、あとは税務署の審査を受けて、つみたてNISAの口座を開設することができます。

投資初心者にもおすすめのインデックス・ファンド

株価や債券の動きと連動した値動きをするインデックス・ファンドは、シンプルで、初心者にとっても始めやすい投資です。さらに、「つみたてNISA」を活用することで、毎月少額でコツコツと積み立てて続けることができます。

インデックス・ファンドの最大のメリットは、運用をまるごと専門家に任せられることです。定期預金とは異なり、元本割れのリスクこそありますが、長期分散投資によって、リスク回避も可能です。

まずは、アセットアロケーションによって、自己資産をどれだけ投資に回せるかを考えてみましょう。そして「節約」「貯金」から発想を転換し、将来のために投資への一歩を踏み出してみませんか?

Let's block ads! (Why?)

"インデックス" - Google ニュース
September 01, 2020 at 10:55AM
https://ift.tt/3hHlOx0

インデックス・ファンドとは - アセットアロケーションの意味も紹介 - マイナビニュース
"インデックス" - Google ニュース
https://ift.tt/2vnWR6n
Shoes Man Tutorial
Pos News Update
Meme Update
Korean Entertainment News
Japan News Update

Bourse : quatre actions françaises dans la sélection mondiale de Morningstar - Boursorama

terindexbanyak.blogspot.com

Quatre actions françaises ont les faveurs de Morningstar. (© Adobestock)

Les analystes du bureau de recherche ont sélectionné 66 entreprises à travers le monde jugées attrayantes. Parmi elles, quatre valeurs françaises.

Les analystes de Morningstar proposent une liste de valeurs baptisée «Equity Best Ideas», mise à jour une fois par mois.

Ces actions mises en avant sont issues de l'ensemble des secteurs de la cote et de l'ensemble des pays du monde. La liste est composée de 41 titres américains, 13 sociétés asiatiques, 12 entreprises australiennes ou néo-zélandaises et 16 groupes européens dont 4 français.

Pour chacun des titres sélectionnés, Morningstar attribue une note qualitative allant d'une à cinq étoiles, un niveau d'incertitude (de «très élevé» à «faible») et une valorisation estimée («fair value»).

Beaucoup de valeurs américaines recommandées

Aux Etats-Unis, le bureau d'analyse met en avant des entreprises comme le producteur de lithium Albemarle Corp (4 étoiles, risque élevé, valeur estimée à 125 dollars), General Motors (5 étoiles, risque élevé, valorisation à 48 dollars), Schlumberger (5 étoiles, incertitude élevée, fair value à 48 dollars).

D'autres titres sont recommandés comme le producteur de poulets Pilgrim's Pride (5 étoiles, risque élevé, objectif à 34,50 dollars), le producteur de pétrole Diadmondback Energy (5 étoiles, risque élevé, fair value à 87 dollars).

Puis la plateforme de réservation aérienne Sabre Corp (5 étoiles, incertitude élevée, fair value à 17,50 dollars), le spécialiste des logiciels de virtualisation VMware

Lire la suite sur LeRevenu.com

August 31, 2020 at 02:05PM
https://ift.tt/32LO4sb

Bourse : quatre actions françaises dans la sélection mondiale de Morningstar - Boursorama

https://ift.tt/2Vb9Mmp
Bourse

“TikTok risque de plomber les actions Microsoft, en Bourse !” - Capital.fr

terindexbanyak.blogspot.com

Microsoft est la deuxième plus grosse capitalisation boursière du Nasdaq avec 1730 milliards derrière Apple qui a récemment franchi le cap des 2000 milliards et affiche actuellement une capitalisation de 2130 milliards. Microsoft évolue actuellement 38% au-dessus de son sommet de février, c’est-à-dire avant que la crise du Covid19 n’affecte les marchés mondiaux, et a performé de 72% par rapport à son creux du 23 mars. Si on dézoome encore un peu plus, le titre s’est apprécié de 1433% depuis le point bas de la crise des subprimes en 2009 ou encore de 280% depuis l’élection présidentielle américaine en 2016. Microsoft se paie 40 fois les bénéfices en bourse mais ce n’est pas plus que d’autres GAFAM comme Apple qui se paie 42 fois les bénéfices ou Amazon (147 fois les bénéfices) ou même Facebook (46 fois les bénéfices). C’est presque en ligne avec la moyenne du Nasdaq 100 : l’indice évolue sur un multiple de 39 fois les bénéfices.

Pourquoi alors craindre un peu plus de nervosité sur ce titre ? Peut-être par rapport à l’évolution de la situation de TikTok aux Etats-Unis. Depuis plusieurs semaines, la maison mère de TikTok, ByteDance, est sous pression de l’administration américaine pour céder ses activités sur le territoire et le candidat le plus sérieux à une reprise des activités est Microsoft, potentiellement associé à d’autres entités comme Oracle ou Walmart. Ces rumeurs de rachat ont profité au titre, qui a marqué un nouveau record historique jeudi dernier à plus de 231 dollars alors que le titre consolidait depuis plusieurs semaines entre 200 et 217 dollars.

Mais en fin de semaine dernière, Pékin a mis à jour ses règles de contrôle export en incluant notamment les technologies “sensibles” dont certaines font partie de l’application TikTok. Ce qui signifie que la maison mère ByteDance pourrait avoir besoin d’un accord des autorités chinoises pour céder une partie de ses activités à un groupe américain…

>> Retrouvez ici nos Conseils Bourse du jour

Si la cession de TikTok prend du retard alors qu’elle était potentiellement déjà acquise aux yeux de certains investisseurs et que les tensions s’accroissent entre les Etats-Unis et la Chine sur ce sujet très sensible des techs, les mouvements pourraient être plus nerveux sur le prix des actions des acheteurs potentiels. Et dans l’hypothèse d’une cession qui se passerait “normalement” se pose aussi la question d’un éventuel sell the news (référence au dicton boursier : Achetez la rumeur et vendez la nouvelle, NDLR) temporaire, sachant que l’information d’un rachat potentiel par Microsoft circule déjà depuis plusieurs semaines.

>> Rejoignez le Club Capital des Boursicoteurs sur Facebook (cliquez sur l'image)

August 31, 2020 at 11:05PM
https://ift.tt/32HFUkr

“TikTok risque de plomber les actions Microsoft, en Bourse !” - Capital.fr

https://ift.tt/2Vb9Mmp
Bourse

美國北德州大學突然驅逐所有中國公派留學生限1個月內離境 - 香港01

terindexbanyak.blogspot.com

2020-09-01 10:26

最後更新日期：2020-09-01 10:26

據美國網站dentonrc消息，美國北德克薩斯州大學（University of North Texas）近日突然宣布驅逐所有受中國國家留學基金委員會資助的公派訪問學者和留學生，並限他們在一個月內離境。

相關消息在Twitter及Facebook等社交媒體廣為傳播。網傳消息中，一封來自美國北德克薩斯州大學的電郵截圖顯示，該校於8月26日決定中止受中國國家留學基金委員會資助的公派訪問學生學者在該校學習的資格，並剝奪了這些人繼續使用學校服務器、電子郵箱等學習資料的權利，僅允許受影響的人返校領取個人物品。

網傳北德克薩斯州大學的電郵。（Twitter）

這封電郵還顯示，該校也將此事吿知了美國政府的相關簽證部門，表示這些中國公派訪問學生學者的學習項目已在8月26日當天結束。

對此，美國網絡上一些為該校中國留學生「鳴不平」的網貼稱，北德克薩斯州大學在做出這一決定前並沒有提前知會學生們，也沒有就為何這麼做給出理由。

校方至今沒有透露原因

另外，在美國請願類信息網站「Change.org」上，一則為北德克薩斯州大學的中國留學生求助的網貼就表示，該校是在8月26日當天突然宣布中止受中國國家留學基金委員會資助的訪問學生和學者的學習資格的，並要求這些持有J-1類簽證的中國公派留學生和學者在1個月內離境。該校至今也沒有透露這麼做的原因是什麼。

該網貼還控訴說，北德克薩斯州大學的這一突如其來的決定，會給受影響的中國公派學生和學者帶來了大量不便，迫使他們一邊為了回國要拼命找地方做新冠肺炎的檢測，一邊還得面對因新冠肺炎疫情衝擊而價格暴漲且數量極為有限的機票困境。同時，隨着這些中國公派學生尚未完成的訪學項目被就此中斷，他們能否完成學業和畢業也成了一個問題。因此，該網貼呼籲北德克薩斯大學撤回這一決定。

其中，一名直接參與了該校中國公派學生學者項目的教授在上述求助帖中留言，表示學校對這些中國留學生和學者的做法「是不公平的」，而且也是「毫無必要」的，因為他沒聽說過北德克薩斯州大學的任何中國公派留學生和學者中，有人遭到任何具體的指控。他無法理解為何學校要一下子就把所有中國公派留學生和學者全都趕走。

截至目前，美國官方以及北德克薩斯州大學尚未就此事作出正面回應。

美國國務卿蓬佩奧早前表示，特朗普正考慮限制中國學生及到研究人員到美國，可能在未來數星期或數個月公布細節。（資料圖片）

值得關注的是，早在2020年5月29日，美國總統特朗普（Donald Trump）曾簽發了一則封殺部分中國留學生和學者的總統令，禁止任何與在中國從事「軍民融合」項目的院校機構有關聯的學生和學者，來美國進行本科以上的學習和學術研究。

8月31日，美國國務卿蓬佩奧（Mike Pompeo）接受媒體採訪時表示，特朗普正在慎重考慮限制中國學生赴美。蓬佩奧並未透露更多細節，他表示未來數週或數月，會有更多消息對外公布。

Let's block ads! (Why?)

September 01, 2020 at 09:26AM
https://ift.tt/31KXq8n

美國北德州大學突然驅逐所有中國公派留學生限1個月內離境 - 香港01

https://ift.tt/3fwtXTu

총수 일가, 4%도 안되는 지분으로 기업 전체 지배 여전 - Daily NTN

terindexbanyak.blogspot.com

- 공정위, 2020년 공시대상기업집단 주식소유현황 공개
- 공익법인을 통한 우회출자 등 사익편취 사각지대 늘어

총수일가가 4% 미만의 적은 지분으로 계열사 출자 등을 활용해 기업집단 전체를 지배하는 구조가 여전한 것으로 나타났다.

공정거래위원회가 올해 5월 1일 공시대상기업집단으로 지정된 64개 기업집단 총 소속회사 2292개사의 주식소유현황을 분석한 결과, 총수일가 사익편취규제의 사각지대가 늘어난 것으로 나타났다.

지분 매각, 계열 분리 등에 따라 사익편취규제 대상회사가 감소하였지만, 규제사각지대 회사는 오히려 늘어났다는 분석이다.

소수의 지분을 처분해 총수일가 지분율이 30%에 못 미치게 돼 사익편취규제 대상에서 벗어난 사례도 있었다.

공익법인이나 해외계열사 등을 통해 우회적으로 지배력을 확대할 가능성이 있는 사례도 늘어나고 있어 제도 개선이 시급하다는 것이 공정위 판단이다.

지난해에 비해 공익법인이 출자한 계열회사, 해외계열사가 출자한 국내 계열회사, 금융보험사가 출자한 비금융 계열회사 수는 모두 증가했다.

이에 따라 우회출자를 활용한 총수 일가의 지배력 확대 우려 또한 커지고 있다.

기존 공시대상기업집단의 순환출자는 지속 개선되고 있지만, 신규 지정된 기업집단이 원래 보유하고 있었던 순환출자가 다수 존재하는 것으로 파악돼 제도 개선이 필요하다는 지적이다.

현행 공정거래법 제9조의2는 신규 순환출자만을 금지하고 있다. 따라서 상호출자제한기업집단으로 지정되기 이전부터 보유하고 있던 순환출자에 대해서는 규제할 수 없다.

일부 공시대상기업집단에서 상호출자가 존재하고 있는 것으로 확인됐다.

이번 공정위 분석결과 64개 기업집단의 내부지분율 현황에서 총수일사는 지분율 3.6%로 기업집단 전체를 장악하고 있었다.

내부지분율은 동일인(오너)이나 동일인과 관련된 친족, 임원, 계열사, 비영리 법인 등이 보유한 주식가액이 계열사 전체 자본금에서 차지하는 비중이다.

64개 집단 중 총수가 있는 55개 집단 내부지분율은 57.0%로 지난해 51개 집단 57.5%보다 0.5%포인트 줄었다. 이 중 총수일가 지분율은 3.6%(총수 1.7%, 친족 1.9%)고 계열사 지분율은 50.7%다.

지난해보다 총수일가 지분율은 0.3%포인트, 계열사 지분율은 0.2%포인트 하락했다.

기타(임원, 비영리법인, 자사주) 지분율은 2.7%로 지난해와 동일했다. 3.6%의 지분만 가진 총수일가가 해당 지분을 계열사에 출자하고, 계열사를 통해 다른 지분을 확보하는 방식으로 기업집단 전체를 장악하고 있는 것이다. 총수일가가 지분을 가진 계열사는 2114개 중 419개(19.8%), 지분이 없는 계열사는 1695개사(80.2%)였다.

총수일가의 계열사 평균 지분율은 10.4%였다. 총수가 지분을 가진 계열사는 235개사(11.1%)로 평균지분율은 10.0%, 총수 2세가 지분을 가진 계열사는 184개사(8.7%)로 평균지분율은 4.9%, 총수의 배우자와 형제·자매 등 친족이 지분을 가진 계열사는 251개사(11.9%)로 평균 지분율은 4.9%였다.

지난해와 비교하면 공익법인이 출자한 계열사는 124개에서 128개, 해외계열사가 출자한 국내계열사는 47개에서 51개, 금융·보험사가 출자한 비금융 계열사는 41개에서 53개로 각각 증가했다.

한편 총수가 있는 55개 집단 소속 2114개 회사 중 사익편취 규제 대상은 210개사(9.9%)였다. 지난해 47개 집단, 219개사보다 감소한 것이다. 사익편취 규제 대상은 총수일가 보유지분이 30% 이상인 상장회사, 20% 이상인 비상장회사다.

공정위는 총수일가 지분이 20% 이상 30% 미만으로 규제 기준보다 조금 낮은 상장사, 사익편취 규제 대상 회사나 규제 기준보다 총수일가 지분이 조금 낮은 상장사가 50% 넘는 지분을 가진 자회사 등 사익편취 규제 사각지대도 따로 분석했다.

그 결과 사각지대 회사는 총수가 있는 51개 집단 2114개사 중 388개사(18.4%)로, 지난해 48개 집단 376개사보다 12개사 증가한 것으로 나타났다.

총수일가 지분이 20% 이상 30% 미만인 상장사가 23개 집단 소속 30개사였다. 이 중 현대글로비스, LG, KCC건설, 코리아오토글라스, 태영건설 등 5개 상장사는 총수일가 지분율이 29% 이상 30% 미만이었다.

사익편취 규제 대상 회사나 총수일가 지분 20% 이상 30% 미만 상장사가 지분을 50% 넘게 보유한 자회사는 358개사였다. 효성(32개), 호반건설(19개), GS·태영·넷마블(이상 18개) 등이 사각지대 회사를 많이 보유했고, 사익편취 규제 대상 회사는 없으나 사각지대 회사를 보유하고 있는 기업집단도 금호석유화학(5개), LG·동국제강(이상 4개), 한라(3개) 등 4개 있었다.

성경제 공정위 기업집단 과장은 "총수일가가 적은 지분으로 기업집단 전체를 지배하는 구조가 지속하고 있고 사익편취 규제 사각지대도 풍선효과로 확대됐다"며 "공익법인이나 해외계열사를 통해 우회적으로 지배력을 확대할 가능성이 있는 사례도 늘었다"고 지적했다.

성 과장은 "제도 개선이 시급하다"며 "국회에 제출한 공정거래법 개정안이 통과되면 사익편취 규제 사각지대가 모두 규제 대상에 포함되고, 공익법인과 해외계열사를 통한 출자 등에도 공시 의무를 부과해 '깜깜이 투자'를 막을 수 있다"고 강조했다.

순환출자 고리를 보유한 집단은 61개 집단 중 4개 집단으로 지난해와 동일했다.

순환출자 고리 수는 21개로 지난해(14개)보다 7개 늘었다.

다만 기존 공시대상 기업집단은 순환출자를 상당 부분 해소한 것으로 나타났다. 기존 집단 중 영풍은 지난해 1개였던 순환출자 고리를 없애 순환출자를 완전 해소했고 SM은 순환출자 고리를 지난해 7개에서 5개로 줄였다.

여기에 SM은 이번 분석 기준일(5월 1일) 이후인 7월 13일 순환출자를 전부 해소했다.

그러나 신규 집단인 KG가 보유한 10개의 순환출자 고리가 추가돼 전체 순환출자 고리 수가 늘었다.

공정위는 지난 2014년 7월 순환출자 금지제도 시행 이후 순환출자 집단 수는 14개에서 4개로 10개 줄었고, 순환출자 고리 수도 483개에서 14개로 462개 줄었다고 설명했다.

64개 집단 중 상호출자를 보유한 집단은 KG(2개), SM·중흥건설·태광·장금상선(이상 1개) 등 5개 집단이다.

KG와 SM, 장금상선은 공시대상 기업집단 지정 이전부터 상호출자를 보유했으며, 중흥건설과 태광은 지정 이후 상호출자가 발생했다.

공정거래위원회는 이번에 공개한 주식 소유 현황 발표 이후에도 11월에는 내부거래 현황과 지주회사 현황을, 12월에는 지배구조 현황 등 대기업집단의 주요 현황 등에 대한 정보를 분석하여 지속적으로 시장에 제공할 계획이다.

성경제 공정위 기업집단정책과장은 “현재 진행 중인 '공시대상기업집단 주요 현황 등에 관한 정보공개 고도화 연구' 등을 통해 시장 수요에 부합하는 양질의 정보를 제공할 수 있도록 노력해나갈 것”이라고 밝혔다.

Let's block ads! (Why?)

September 01, 2020 at 04:49AM
https://ift.tt/3gNiSxD

총수 일가, 4%도 안되는 지분으로 기업 전체 지배 여전 - Daily NTN

https://ift.tt/2YvgG6T

Börse Frankfurt-News: Orientierungssuche (Wochenausblick) - boerse.de - boerse.de

terindexbanyak.blogspot.com

FRANKFURT (DEUTSCHE-BOERSE AG) - Die Aussichten auf langfristig weit geöffnete Geldschleusen großer Notenbanken sprechen mittelfristig weiterhin für Aktien. Technisch fehlt dem DAX zunächst die Richtung.

31. August 2020. FRANKFURT (Börse Frankfurt). Was auf den ersten Blick wie eine kosmetische Änderung aussieht, wird die Geldpolitik in den Vereinigten Staaten deutlich verändern. Den Schwenk weg vom bisherigen Inflationsziel hin zu einem Durchschnitt von 2 Prozent sehen Analysten als Indiz für eine lang anhaltende Fortsetzung der Nullzinspolitik. Die Federal Reserve ist nun bereit, Teuerungsraten oberhalb von 2 Prozent nach einer längeren Phase niedriger Preissteigerungen über eine geraume Zeit zu tolerieren, ohne mit Zinsanhebungen gegenzusteuern.

Für Robert Halver von der Baader Bank schaffte sich die Zentralbank damit einen Gummiparagraphen, der den Weg für negative reale Renditen auf US-Staatsanleihen ebne. Unter Wahrung der Glaubwürdigkeit könnten die Währungshüter zur Sicherung der Schuldentragfähigkeit sowie zur Stabilisierung von Konjunktur und Beschäftigung höhere Inflation künftig nachhaltig ignorieren.

Ende der Rallye vorerst nicht in Sicht

Die schon jetzt reichlich vorhandene Liquidität dürfte nach Auffassung Rainer Weyrauchs von der Fürst Fugger Privatbank in den kommenden Monaten sämtliche Probleme überdecken, die in normalen Börsenphasen eine Korrektur ausgelöst hätten. Weyrauch nennt beispielhaft den nach wie vor schwelenden Handelskrieg zwischen den USA und China. Auch der No-Deal-Brexit, die US-Wahlen und die Eskalation zwischen der Türkei und Griechenland gehörten dazu. Jeder Rückschlag an den Aktienmärkten würde derzeit zum Nachkaufen genutzt. Gefahr einer Überhitzung am Markt erkennt der Analyst noch nicht. Sollten die letzten Skeptiker aufgeben, werde es aber Zeit, Gewinne mitzunehmen. Wachsamkeit sei jederzeit angebracht.

Rosige Zeiten für Aktien

Das sieht Robert Halver von der Baader Bank ähnlich. Mit der Aussicht auf anhaltend niedrige Zinsen spreche auch künftig viel für Aktien. Diese laufen trotz Corona in den USA teilweise zur Hochform auf. In der vergangenen Woche schafften S&P 500 und Nasdaq mit Gewinnen von 2,6 und 2,5 Prozent neue Rekorde. Der Dow Jones Industrial stieg um 2 Prozent. Der deutsche Aktienindex legte auf 13.044 Punkten und damit 2,1 Prozent zu. Am Morgen eröffnet der DAX mit 13.103 Punkten im Plus.

Kurzfristige Richtung ungewiss

Aus technischer Perspektive sieht die Helaba den DAX zunächst auf Orientierungssuche. In der vergangenen Woche sei der deutsche Bluechip-Index daran gescheitert, das markante Hoch vom 21. Juli bei 13.313 zu überwinden. In Folge habe eine kleine Korrektur eingesetzt.

Die seit Wochen zu beobachtende Konsolidierungsphase sei noch nicht beendet. Die technischen Indikatoren lieferten zudem keine Hinweise auf einen Ausbruch nach oben. Unter anderem stimme das anhaltend niedrige Niveau des ADX skeptisch. Erste Unterstützungen machen die Helaba-Analysten an der 21-Tagelinie bei 12.852 und am letzten Tief bei 12.633 Punkten aus. Entscheidend sei aber der Bereich um 12.207 bzw. 12.253 Punkte. Hier lägen die 200-Tagelinie und das markante Tief vom 30. Juli. Solange sich der DAX oberhalb dieser Marken aufhalte, gelte der übergeordnete, seit Juni bestehende Aufwärtsimpuls als intakt.

Wichtige Konjunktur- und Wirtschaftsdaten

Dienstag, 1. September

11.00 Uhr. Euroraum: Verbraucherpreise August. Nach einer saisonal bedingten höheren Kerninflation im Juli rechnen Analysten für August unter anderem aufgrund niedrigerer Benzin-, Diesel- und Heizölpreise mit einer rückläufigen Inflation. Der Konsens liegt bei 0,2 Prozent im Vergleich mit dem Vorjahresmonat.

Donnerstag, 3. September

Nach 22 Uhr. Deutschland: Veröffentlichung der Anpassungen wichtiger Auswahlindizes.

Freitag, 4. September

14.30 Uhr. USA: Arbeitslosenzahlen August. Viele Ökonomen gehen von einer anhaltenden wirtschaftlichen Erholung in den USA aus, wenn auch mit etwas schwächerer Dynamik. Bereits im Juli seien weniger Stellen aufgebaut worden als in den Vormonaten. Der Durchschnitt der Prognosen ergibt 1,4 Millionen neue Jobs außerhalb der Landwirtschaft im August. Im Juli waren es 1,76 Millionen. Die Arbeitslosenquote soll von 10,2 auf 9,8 Prozent zurückgehen.

von: Iris Merker

31. August 2020, © Deutsche Börse AG

(Für den Inhalt der Kolumne ist allein Deutsche Börse AG verantwortlich. Die Beiträge sind keine Aufforderung zum Kauf und Verkauf von Wertpapieren oder anderen Vermögenswerten.)

Quelle: dpa-AFX

August 31, 2020 at 04:04PM
https://ift.tt/3lxxqFc

Börse Frankfurt-News: Orientierungssuche (Wochenausblick) - boerse.de - boerse.de

https://ift.tt/2NJ7kiZ
Börse

Börse: Schwacher Wochenauftakt - BR24

terindexbanyak.blogspot.com
[unable to retrieve full-text content]Börse: Schwacher Wochenauftakt BR24

August 31, 2020 at 11:59PM
https://ift.tt/2GgFXfC

Börse: Schwacher Wochenauftakt - BR24

https://ift.tt/2NJ7kiZ
Börse

ต่างชาติกดดัชนี • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ - ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

terindexbanyak.blogspot.com

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

วานนี้ (31 ส.ค.) เป็นอีกวันที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิออกมาค่อนข้างหนัก

หรือกว่า 6,407 ล้านบาท

ส่งผลให้ช่วงเดือนสิงหาคม 2563 ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 27,661 บาท และหากนับจากต้นปี 2563 มาถึง ณ 31 ส.ค. 63 ต่างชาติขายแล้ว 254,484 ล้านบาท

ต่างชาติที่ขายเมื่อวานนี้นั้น

ส่วนหนึ่งมาจาก MSCI Rebalance ที่ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยลง

ทว่า หากดูจากตัวเลขที่ถูกปรับลดน้ำหนัก กับยอดขายสุทธิ (ต่างชาติ) ที่ออกมา ไม่ค่อยสัมพันธ์ซักเท่าไหร่

ก่อนหน้านี้ มีการคำนวณกันออกมาแล้วว่า MSCI Rebalance รอบล่าสุดนี้ จะทำให้ต่างชาติที่เป็นพวก Passive fund ขายหุ้นออกมารวมกันระหว่าง 690–700 ล้านบาท เท่านั้น

แต่ยอดขายสุทธิที่ออกมา กลับมีมากกว่า

หรืออีกนัยหนึ่งคือ ไม่ใช่มีการขายเฉพาะหุ้นที่ถูกปรับลดน้ำหนักเท่านั้น

แต่เข้าใจว่าต่างชาติต้องการกดดัชนีในแต่ละเดือนของตลาดหุ้นไทยลงมา

ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปิดที่ 1,328.53 จุด

ส่วนวานนี้ปิด 1,310.66 จุด หรือลดลงมา 1.34% (ในรอบ 1 เดือน)

ส่วนเดือนกันยายนนี้ นักวิเคราะห์ต่างมองว่า ดัชนีน่าจะแกว่งลงอีก และต่างชาติจะขายหุ้นเพื่อกดดัชนีลงมาอีก

ประเด็นของปัญหาคือ ไม่มีใครทราบว่า ต่างชาติจะขายอีกเท่าไหร่ เป้าหมายจริง ๆ คืออะไร

แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ในช่วงที่ผ่านมา คือ นักลงทุนสถาบัน

หรือกลุ่มกองทุนต่าง ๆ พยายามที่จะ “สู้” อยู่

มีคำถามว่าแล้วจะสู้ได้แค่ไหน

คำตอบนี้ ตอบได้ยากเช่นกัน เพราะต้องขึ้นอยู่กับเงินหน้าตัก หรือเงินสดในมือของกองทุนต่าง ๆ เหลืออยู่เท่าไหร่

ประกอบกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ต่าง ๆ ที่ออกกองทุนใหม่ จะมีเม็ดเงินเข้ามามากน้อยแค่ไหนล่ะ

เดือนสิงหาคม 2563 นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 11,574 ล้านบาท

และหากนับในช่วง 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค. 63) สถาบันซื้อสุทธิรวมกันกว่า 81,046 ล้านบาท

หากแรงซื้อจากกองทุนต่าง ๆ เริ่มแผ่ว

มีโอกาสสูงมากดที่ดัชนีจะหลุด หรือลงไปต่ำกว่า 1,300 จุด

หันมาดูนักลงทุนรายย่อยกันบ้าง

นับจากต้นปี หรือช่วง 8 เดือนแรก ซื้อสุทธิ 173,453 ล้านบาท หรือซื้อหนักกว่านักลงทุนสถาบันเยอะมาก

ณ สิ้นปี 2562 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,579.84 จุด

เมื่อนำมาคำนวณกับดัชนีที่ปิดวานนี้ 1,310.66 จุด

จะได้ตัวเลขดัชนีหุ้นไทย ช่วง 8 เดือนแรก ปรับลดลงมา 17.03%

ดัชนีร่วงลงมาแบบนี้ มีนักลงทุนน่าจะติดดอยกันเยอะแน่นอน

โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม SET50

เพราะดัชนี SET50 สิ้นปี 2562 ปิดที่ 1,068.50 จุด ส่วนวานนี้ ปิดที่ 844.22 จุด หรือลงมา 20.99% (ม.ค.-ส.ค. 63)

หากต่างชาติยังขายออกมาแบบนี้

ทางออก หรือสิ่งที่ต้องระวังคือ เลี่ยงหุ้นในกลุ่ม SET50 ไปก่อนชั่วคราว หรือไม่ก็ต้องเข้าเร็วและออกให้เร็ว

หรือไม่ก็ต้องหันไปลงทุนหุ้นในกลุ่ม SET100 พวกขนาดกลางและเล็ก

หรือหุ้นที่ต่างชาติไม่ได้ถือหรือเข้ามาลงทุนอยู่

แต่หุ้นที่เข้าซื้อนั้น นักวิเคราะห์ แนะนำว่า ควรจะเป็นหุ้นที่มีโมเมนตัมเรื่องผลประกอบการไตรมาส 3 และ 4 ยังออกมาดีต่อเนื่อง หรือเป็นหุ้นที่จะฟื้นตัวได้จากครึ่งปีแรก

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หลายแห่ง เป็นออกบทวิเคราะห์ พร้อมกำหนด “ธีม” กันออกมาเยอะแยะ

มีหุ้นน้ำดีที่ถูกมองข้ามอยู่หลายหุ้นพอสมควรเลย

เข้าไปหาอ่านกันครับ

ภาวะตลาดหุ้นแบบนี้ อย่าลงทุนแบบ “ปาเป้า”

Let's block ads! (Why?)

September 01, 2020 at 06:22AM
https://ift.tt/3juC5WC

ต่างชาติกดดัชนี • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ - ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์
https://ift.tt/3eDfmFv
Home To Blog

要求新澤西所有學生打流感疫苗新議案遭質疑 - 大紀元

terindexbanyak.blogspot.com

【大紀元2020年08月31日訊】（記者馮承業綜合報導）新澤西兩名州議員上週提出新議案，要求所有學生必須打流感疫苗。

州民主黨眾議員康納威（Herb Conaway）和茨維克爾（Andrew Zwicker）上週提出新議案（A4576），要求新澤西所有學生，從小學到大學，從公立學校到私立學校，必須打流感疫苗。

目前新澤西已經強制要求參加幼兒園和學前班的孩子打流感疫苗。

他們的目標是在10月1日之前在議會通過法案。本身職業為內科醫生的康納威表示，「打疫苗後人們可以在流感季節來臨之前增強其身體的免疫力。」

該法案引用的科學依據是，注射疫苗將大大減少「嚴重流感症狀」或與武漢肺炎類似的嚴重症狀，並「減少與流感相關的急診和住院人數」。

新澤西疫苗選擇聯盟（New Jersey Coalition for Vaccination Choice）的聯合創始人科林斯（Sue Collins）說，她將反對任何強制要求注射流感疫苗的議案。她指出，「眾所周知流感疫苗無效」。

柯林斯說，當人們保持社交距離，勤洗手並在公共場所戴口罩，這些預防措施足以「減少流感病毒和其他病毒的傳播」。

根據美國疾病控制和預防中心（CDC）的分析，流感疫苗在2019-20年度的有效性介於38％至44％之間。在過去的十年中，總體有效性從60％（在2010-11年度）到29％（在2014-15年度）不等。

柯林斯指出，流感疫苗是「疫苗不良反應報告系統」（Vaccine Adverse Events Reporting System）裡面問題最多的疫苗。

「疫苗不良反應報告系統」是一個聯邦數據庫，收集來自醫療機構、疫苗生產商和公眾，未經確認的不良反應報告。

聯邦政府還有另外一個計劃：「國家疫苗傷害計劃」，專門補償因疫苗傷害的人，在2006年至2018年分發的16.7億劑疫苗中，共向3,624名因疫苗受到傷害的人支付了賠償費用。

流感疫苗常見的副作用有：發燒、頭痛、肌肉疼痛、頭暈。比較少見的副作用會引發嚴重的過敏症狀，導致呼吸困難、心跳加快、臉部腫大、虛弱，在極少情況下，甚至會引發格林－巴利綜合症（Guillain-Barre syndrome，縮寫為GBS）。

柯林斯強調，流感疫苗由於安全性問題，「不應該成為強制使用的疫苗。」

這個提案，無疑將重新引發一場有關父母權利與公共衛生的辯論。

在新澤西，父母只要向學校寫封信，聲明打疫苗違反了他們的宗教信仰，學生就可以豁免疫苗要求。

去年由於在新澤西和美國其他州爆發了麻疹疫情，包括康納威在內的民主黨州議員在去年的12月份和今年的1月份，提案要求廢除因宗教原因豁免疫苗的規定。

當時提案在州參議院闖關時吸引了上千名家長和學生的抗議，反對者聲稱該提案是危險的政府舉動、會侵犯他們作為父母的權利，並侵犯了他們的宗教自由，最終該法案無疾而終。

無獨有偶，馬薩諸塞州長8月19日要求全州30歲以下、6個月以上的兒童、小、中、大學生全部須注射流感疫苗後，引起了大規模的抗議活動。8月30日，數百名抗議者聚集在馬州議會大樓前，人們舉著標語，上面寫著「不能強制注射」、「我的孩子我來選擇」、「父母做主」、「無法避免不安全」等等。

在疫情高壓之下，一切都不復正常。新澤西州議會會不會罔顧反對聲音，板上釘釘，強行通過疫苗強制法案，尚待觀察。◇

責任編輯：耶晨

Let's block ads! (Why?)

August 31, 2020 at 10:39PM
https://ift.tt/2EzSxpX

要求新澤西所有學生打流感疫苗新議案遭質疑 - 大紀元

https://ift.tt/3fwtXTu

Les valeurs à suivre à Paris et en Europe : Veolia, Sanofi, Natixis ... - Boursorama

terindexbanyak.blogspot.com

(Crédits photo : crédit veolia - )

(Actualisé avec Philips)

* Variation des futures sur indice CAC 40 0#FCE:

* Variation des futures sur indice Stoxx 600 0#FXXP:

* Valeurs qui se traitent ex-dividende .EX.PA

* Le point sur les marchés européens .EUFR

PARIS, 31 août (Reuters) - Les valeurs à suivre lundi à la Bourse de Paris et en Europe où les contrats à terme indiquent une ouverture en hausse :

* VEOLIA VIE.PA , SUEZ SEVI.PA , ENGIE ENGIE.PA - Veolia a annoncé dimanche avoir proposé à Engie de lui racheter 29,9% de Suez pour un prix qu'il estime à environ 2,9 milliards d'euros, avant une possible offre sur le solde du capital de son concurrent si sa proposition, destinée à créer un "champion français" du traitement des déchets et de l'eau pour le monde post-coronavirus, est acceptée.

* SANOFI SASY.PA - La confiance du groupe dans ses candidats vaccins contre le coronavirus a augmenté cet été, a déclaré à Reuters le directeur général du groupe pharmaceutique.

* NATIXIS CNAT.PA a déclaré vendredi soutenir la décision de sa filiale H2O Asset Management de suspendre pour quatre semaines huit de ses fonds, en précisant qu'elle n'aurait pas d'impact sur ses comptes.

* DASSAULT AVIATION AVMD.PA - La France discute avec Dassault Aviation d'un éventuel ajustement du calendrier de la commande de 30 nouveaux avions Rafale alors que l'avionneur doit faire face aux conséquences de l'épidémie de coronavirus sur son activité.

* SOLOCAL LOCAL.PA a annoncé lundi le départ de son directeur général, Eric Boustouller, le 4 octobre et son remplacement par le président du conseil d'administration Pierre Danon. Le groupe indique que cette décision s'inscrit dans la continuité des discussions menées avec les créanciers dans le cadre du plan de renforcement de sa structure financière.

* NESTLÉ NESN.S a annoncé lundi le rachat de l'entreprise biopharmaceutique Aimmune Therapeutics AIMT.O , qui commercialise un traitement de l'allergie à l'arachide chez l'enfant, dont il détient déjà 25,6% du capital.

* PHILIPS PHG.AS a déclaré lundi que le département américain de la Santé avait annulé la majeure partie d'une commande de 43.000 ventilateurs d'hôpitaux, amenant le fabricant néerlandais d'équipements électriques à réduire son objectif de bénéfice pour 2020.

* ASTRAZENECA AZN.L a déclaré que son traitement du diabète Farxiga améliorait les chances de survie des patients souffrant de maladies rénales.

* ARYZTA ARYN.S - Le fonds Elliott envisage une offre d'achat sur le groupe suisse de boulangerie industrielle en difficulté, a rapporté vendredi Bloomberg.

L'AGENDA FRANCE & INTERNATIONAL À 7 JOURS:

(Service Marchés)

August 31, 2020 at 01:53PM
https://ift.tt/2QGKBFv

Les valeurs à suivre à Paris et en Europe : Veolia, Sanofi, Natixis ... - Boursorama

https://ift.tt/2Vb9Mmp
Bourse

La naissance d'un géant mondial de la gestion des déchets en soutien de la Bourse de Paris - Investir

terindexbanyak.blogspot.com

Bientôt la naissance d’un géant mondial de la gestion des déchets ? En tout cas, l’espoir est de nature à soutenir la Bourse de Paris. Hier, Veolia Environnement a fait savoir qu’il était prêt à s’emparer de Suez en annonçant son intention d’acheter à Engie les parts que celui-ci détient dans son rival (29,9%). Le but étant, à terme, de lancer une OPA sur le solde si toutefois la cible donne son feu vert. Le conseil d’administration de Suez va se réunir « dans les plus brefs délais ». Les actions Veolia devraient grimper de 4%, selon les indications données par le carnet d’ordres. Celles d'Engie sont également attendues en forte hausse.

D’après le contrat futures, le Cac 40 est attendu en légère hausse (+30 points) malgré la faiblesse persistante du billet vert qui renchérit mécaniquement l’euro. Le dollar évolue sur des plus bas de deux ans au regard de l’indice DXY qui le compare à un panier de six devises (l’euro, le yen, la livre sterling, le dollar canadien, la couronne suédoise et le franc suisse). Reste que la faiblesse du dollar, précipitée par la décision de la banque centrale américaine - la semaine dernière - de changer d’approche sur l’inflation, n’a pas empêché la Bourse de Tokyo de grimper.

L’indice Nikkei 225, pourtant composé de grandes entreprises exportatrices, a gagné plus de 1% soutenu, lui aussi, par des mouvements capitalistiques. Le milliardaire américain Warren Buffett, au travers son fonds Berkshire Hathaway, a pris des participations dans cinq entreprises de négoce de matières premières (Itochu, Marubeni, Mitsubishi, Mitsui & Co. et Sumitomo) pour un total de plus de 6 milliards de dollars. Marubeni (+10%) a signé la meilleure performance du Nikkei, suivi de près par Sumitomo.

Les marchés asiatiques se sont globalement bien comporés malgré des indicateurs économiques contrastés en Chine, l’indice PMI manufacturier a légèrement reculé en Chine à 51 points en août (51,1 en juillet), pointant un ralentissement de la croissance de l’activité dans l’industrie là où les économistes tablaient sur une légère accélération. En revanche, l'activité dans le secteur non-manufacturier, qui inclut les services et la construction, s'est accélérée en août, avec un indice PMI à 55,2 contre 54,2 en juillet. En Chine, les indices de Shanghai et de Shenzhen, bien qu'en légère baisse, ont plutôt bien résisté aux dernières rivalités entre Pékin et Washington.

Apple, de 2.000 dollars l'action à 500

A Wall Street, les contrats futures sur le Dow Jones, le S&P 500 et le Nasdaq Composite pointent vers une nouvelle progression des indices américains qui devraient, pour le S&P 500 et le Nasdaq des valeurs technologiques, visiter de nouveaux records. Les actions d’Aimmune Therapeutics vont faire un bond alors que Nestlé lance une OPA sur cette société qui travaille à mettre au point des traitements contre les allergies alimentaires chez les enfants, en ciblant notamment l’allergie à l’arachide. L’offre du géant suisse se fait à un prix de 34,5 dollars à comparer à un cours de clôture de 12,6 dollars. Aimmune Therapeutics est une composante du Nasdaq.

Apple, qui s'échangeait à pratiquement 2.000 dollars l'action vendredi, vaut aujourd'hui un peu plus de 500 dollars, attendu en légère hausse de 0,5%. C'est aujourd'hui que prend effet la division par quatre du nomnial de la plus grosse entreprise cotée au monde. C'est aussi aujourd'hui que le Dow Jones, pour ne pas souffrir de cette division, accueille trois entreprises de la « tech » au détriment d'Exxon et de deux autres entreprises de la vielle économie. Salesforce.com va remplacer le pétrolier Exxon Mobil dans l'indice. Le laboratoire pharmaceutique Pfizer va laisser sa place à la biotech Amgen. Quant à Honeywell, bouté hors de l’indice il y a douze ans, il fera son retour en lieu et place de Raytheon Technologies.

Ce lundi, Tesla va également procédé au « split » par cinq du nominal de ses actions. Avec, peut-être à la clé, une entrée prochaine au S&P 500 ?

August 31, 2020 at 01:31PM
https://ift.tt/2QF73yR

La naissance d'un géant mondial de la gestion des déchets en soutien de la Bourse de Paris - Investir

https://ift.tt/2Vb9Mmp
Bourse

La Bourse de Paris monte de 0,77% à l'ouverture - Boursorama

terindexbanyak.blogspot.com

La salle de contrôle d'Euronext, société qui gère la Bourse de Paris ( AFP / ERIC PIERMONT )

La Bourse de Paris avançait de 0,80% à l'ouverture lundi, aidée par la progression de la Bourse du Japon dans le sillage d'indicateurs économiques plutôt bien orientés en Asie.

A 9H35, l'indice parisien gagnait 39,9 points à 5.042,84 points.

Les indices européens "suivent la tendance en Asie", observait peu avant l'ouverture la société Factset dans sa note de marché.

Lundi matin, les investisseurs surveillaient trois indicateurs asiatiques, au rang desquels le bond de la production industrielle de 8% en juillet au Japon, une hausse nettement supérieure aux attentes qui confirme la reprise économique dans le pays.

Les deux principaux indices japonais, le Nikkei et le Topix, progressaient d'environ 1% en conséquence.

En Chine, l'activité manufacturière a montré des signes de tassement en août après six mois de croissance significative, à la suite d'inondations massives. Mais l'activité dans les services a montré sa robustesse.

La Bourse parisienne suivait lundi matin la route tracée la semaine dernière: le CAC 40 avait alors avancé de 2,18%. Une semaine marquée par l'annonce que la Banque centrale américaine (Fed) allait desserrer son étau en matière d'objectif de lutte contre l'inflation.

Entre promesse en creux d'une politique plus accommodante et simple confirmation de sa stratégie entamée ces derniers mois, l'annonce du président de l'institution Jerome Powell a été diversement analysée.

Mais la perspective de taux d'intérêt au plancher pendant une période très prolongée réjouissait toutefois les investisseurs qui en profitent déjà depuis plusieurs années sur les marchés financiers.

Parmi les valeurs du jour, le géant du traitement de l'eau et des déchets Veolia (+3,69% à 19,81 euros), ambitionnant de constituer un "super champion mondial" en intégrant son concurrent Suez (+19,85% à 17,44 euros), a remis dimanche à Engie (+6,02% à 14,05 euros), grand actionnaire de Suez, une offre ferme à 2,9 milliards d'euros, portant sur l'essentiel de sa participation.

Le gouvernement discute avec le constructeur Dassault Aviation (+0,82% à 950,06 euros) d'un possible ajustement de "calendrier" pour la commande de 30 chasseurs Rafale, initialement prévue pour 2023, afin de l'aider à faire face à la crise du secteur aéronautique, a déclaré dimanche la ministre des Armées.

Euronext CAC40

alb/tq/shu

August 31, 2020 at 02:30PM
https://ift.tt/2QIbOYk

La Bourse de Paris monte de 0,77% à l'ouverture - Boursorama

https://ift.tt/2Vb9Mmp
Bourse

La Bourse de Tokyo se remet du choc de la démission de Shinzo Abe - Boursorama

terindexbanyak.blogspot.com

La Bourse de Tokyo était en forte hausse lundi en matinée, se rétablissant après sa correction de vendredi provoquée par l'annonce du départ anticipé du Premier ministre Shinzo Abe et portée aussi par les performances de Wall Street.

L'indice vedette Nikkei gagnait 1,82% à 23.298,29 points vers 01H55 GMT, effaçant ainsi ses pertes de vendredi (-1,41%), et l'indice élargi Topix montait de 1,69% à 1.632,06 points.

Les investisseurs suivaient attentivement les tractations au sein du Parti libéral-démocrate (PLD) pour désigner un successeur à M. Abe, qui a décidé de partir pour raisons de santé, mettant ainsi fin à un mandat de Premier ministre de près de huit ans, un record de longévité au Japon.

Mais passé un bref mouvement de panique vendredi, le marché tokyoïte se remettait car le successeur de M. Abe, quel qu'il soit, ne devrait pas changer de politique économique de sitôt. Par ailleurs, son fidèle bras droit, Yoshihide Suga, était donné favori pour le remplacer.

Les valeurs japonaises étaient aussi soutenues par la hausse à Wall Street, même si "un yen moins bon marché face au dollar" pesait sur le marché, estimait dans une note Yoshihiro Ito de Okasan Online Securities.

Du côté des valeurs

BERKSHIRE HATHAWAY S'INVITE DANS LES MAISONS DE NÉGOCE JAPONAISES: la holding Berkshire Hathaway du célèbre investisseur américain Warren Buffett a annoncé lundi avoir dépassé le seuil de 5% du capital dans cinq grandes maisons de négoce japonaises, un investissement de plus de 6 milliards de dollars selon les calculs de Bloomberg.

Les titres des cinq entreprises concernées s'envolaient: Marubeni décollait de 13,14% à 661 yens, Sumitomo Corp de 10,67% à 1.394,5 yens, Mitsubishi Corp de 10,05% à 2.567 yens, Mitsui & Co de 7,79% à 1.922 yens et Itochu de 5,43% à 2.756,5 yens.

SOFTBANK GROUP MONTE EN FLÈCHE: le titre de SoftBank Group grimpait de 4,54% à 6.688 yens. Le géant japonais a annoncé vendredi qu'il allait céder pour quelque 1.327 milliards de yens (environ 10,5 milliards d'euros) d'actions de sa filiale japonaise de télécoms SoftBank Corp, une nouvelle opération destinée à renforcer sa trésorerie. Le titre SoftBank Corp déclinait de son côté de 3,03% à 1.388 yens.

Du côté des devises et du pétrole

Le yen baissait légèrement face au dollar, à raison d'un dollar pour 105,52 yens vers 01H50 GMT contre 105,37 yens vendredi à 21H00 GMT. Le yen s'était déjà nettement apprécié vendredi après l'annonce de la démission de M. Abe.

La monnaie japonaise refluait aussi par rapport à l'euro, lequel s'échangeait pour 125,63 yens contre 125,42 yens en fin de semaine dernière.

L'euro était quasi stable face au billet vert, à raison d'un euro pour 1,1905 dollar contre 1,1903 dollar vendredi à 21H00 GMT.

Les cours du pétrole étaient dans le vert après avoir terminé en légère baisse vendredi. Le passage de l'ouragan Laura sur la côte du Golfe du Mexique aux Etats-Unis a fait moins de dégâts que redouté sur les raffineries et les experts estiment que le pétrole devrait reprendre sa tendance à la hausse à long terme.

Vers 01H45 GMT le prix du baril de brut américain WTI prenait 0,33% à 43,11 dollars, tandis que celui du baril de Brent de la mer du Nord montait de 0,55% à 46,06 dollars.

mac/etb/am

August 31, 2020 at 09:03AM
https://ift.tt/34Kbi4x

La Bourse de Tokyo se remet du choc de la démission de Shinzo Abe - Boursorama

https://ift.tt/2Vb9Mmp
Bourse

La Bourse de Paris, aidée par des indicateurs asiatiques, ouvre en hausse - Challenges.fr

terindexbanyak.blogspot.com

La Bourse de Paris avançait de 0,80% à l'ouverture lundi, aidée par la progression de la Bourse du Japon dans le sillage d'indicateurs économiques plutôt bien orientés en Asie.

A 9H35, l'indice parisien gagnait 39,9 points à 5.042,84 points.

Les indices européens "suivent la tendance en Asie", observait peu avant l'ouverture la société Factset dans sa note de marché.

Les deux principaux indices japonais, le Nikkei et le Topix, progressaient d'environ 1% en conséquence.

August 31, 2020 at 02:16PM
https://ift.tt/2YRFhnj

La Bourse de Paris, aidée par des indicateurs asiatiques, ouvre en hausse - Challenges.fr

https://ift.tt/2Vb9Mmp
Bourse

恆指蒸發425點所有升幅倒跌四大藍籌內銀績後續捱沽齊尋底 - 阿斯達克財經網

terindexbanyak.blogspot.com

閣下明確同意使用本網站／應用程式的風險是由閣下個人承擔。

AASTOCKS.com Ltd、香港交易所資訊服務有限公司、中國投資信息有限公司、深圳證券信息有限公司、Nasdaq, Inc.、其控股公司及／或該等控股公司的任何附屬公司、或其資訊來源及／或其他第三方數據供應商均竭力確保所提供資訊的準確和可靠度，但不能保證其絕對準確和可靠，且亦不會承擔因任何不準確或遺漏而引起的任何損失或損害的責任（不管是否侵權法下的責任或合約責任又或其他責任）。

AASTOCKS.com Ltd、香港交易所資訊服務有限公司、中國投資信息有限公司、深圳證券信息有限公司、Nasdaq, Inc.、其控股公司及／或該等控股公司的任何附屬公司、或其資訊來源及／或其他第三方數據供應商均對資訊不作任何明示或隱含的要約、陳述或保證 (包括但不限於可銷售性及特殊用途合適性的資訊保證) 。

AASTOCKS.com Ltd、香港交易所資訊服務有限公司、中國投資信息有限公司、深圳證券信息有限公司、Nasdaq, Inc.、或其控股公司及／或該等控股公司的任何附屬公司、或其資訊來源及／或其他第三方數據供應商不會就任何原因導致的中斷、不準確、錯誤或遺漏或因此而造成的任何損害賠償（不論直接或間接、相應而生、懲罰性或懲戒性）對任何人承擔責任。

AASTOCKS.com Ltd不負責，亦不承擔任何由於不可抗力的事故或在AASTOCKS.com Ltd不可合理控制的情況下導致的損失或損害，如颱風、暴雨、其他自然災難、政府或有關機構的限制、騷動、戰爭、病毒爆發，網絡故障或電信故障，引致AASTOCKS.com Ltd不能履行協議內的責任或提供服務。

Morningstar 免責聲明：版權所有©2020 Morningstar，Inc。保留所有權利此處包含的資料，數據，分析和意見（“信息”）:（1）包含Morningstar及其內容提供者的專營資料; （2）除特別授權外，不得複製或轉載; （3）不構成投資建議; （4）僅供參考，（5）並未為所載資料的完整性、準確性及時間性作出保證。Morningstar對於閣下使用任何相關資料而作出的任何有關交易決定、傷害及其它損失均不承擔任何責任。請在使用所有資料前作出核實，並且在諮詢專業投資顧問意見前勿作任何投資決定。過往業績並不代表將來表現，任何投資項目的價值及所得收入皆可升可跌。

本網站／應用程式包含的內容和信息乃根據公開資料分析和演釋，該公開資料，乃從相信屬可靠之來源搜集，這些分析和信息並未經獨立核實和AASTOCKS.com Limited並不保證他們的準確性、完整性、實時性或者正確性。

在本網站／應用程式的資料、金融市場數據、報價、圖表、統計數據、匯率、新聞、研究、分析、購買或者出售評分、財金教學及其他資訊僅作參考使用，在根據資訊執行證券交易前，應諮詢獨立專業意見，以核實定價資料或獲取更詳細的市場信息。AASTOCKS.com Limited不應被視為游說任何訂戶或訪客執行任何交易，閣下須為所有跟隨在本網站／應用程式的評論和購買或出售評分執行的交易負責。

AASTOCKS.com Limited之信息服務基於「現況」及「現有」的基礎提供，網站／應用程式的信息和內容如有更改恕不另行通知。AASTOCKS.com Limited有權但無此義務，改善或更正在本網站／應用程式的任何部分之錯誤或疏漏。

用戶在沒有AASTOCKS.com Limited明確的書面同意情況下，不得以任何方式複製、傳播、出售、出版、廣播、公佈、傳遞資訊內容或者利用在本網站／應用程式的信息和內容作商業用途。

投資涉及風險。閣下可自行决定利用本網站的財金教學作學術參考用途，但 AASTOCKS.com Limited不能並不會保證任何在本網站／應用程式現在或未來的購買或出售評論和訊息會否帶來贏利。過往之表現不一定反映未來之表現，AASTOCKS.com Limited不可能作出該保證及用戶不應該作出該假設。

AASTOCKS.com Limited也許連結訂戶或訪客至其有興趣的網站，但AASTOCKS.com Limited只提供此服務給訂戶或訪客並不為此安排負責。

AASTOCKS.com Limited對於任何包含於、經由、連結、下載或從任何與本網站／應用程式有關服務所獲得之資訊、內容或廣告，不聲明或保證其內容之正確性或可靠性。對於閣下透過本網站／應用程式上之廣告、資訊或要約而展示、購買或取得之任何產品、資訊資料，本公司亦不負品質保證之責任。

AATV是AASTOCKS.com Limited旗下的視頻網站平台。

閣下確認：(i) AATV只為提供資訊，並不為了任何交易目的；(ii) AATV節目內容以及其提供的資料並不構成任何AASTOCKS為售賣任何證券作出招攬、提出要約、意見或推薦，或對任何證劵或投資的收益或是否合適提供法律、稅務、會計、或投資意見或服務；及(iii)AATV並非為任何人士或法律實體在其他司法管轄區或國家使用，而在當地可能因該使用或分發而違反當地法律或法規。

AATV中節目內容中的個人意見和觀點僅供參考及討論，亦並不代表AASTOCKS.com Limited的立場。投資者必須按其本身投資目標及財務狀況自行作出投資決定。AASTOCKS.com Limited不對以下任何情況對閣下或任何人直接或間接負責：（i）AATV的不准確性，錯誤或遺漏，包括但不限於報價和財務數據；（ii）AATV中節目傳輸的延遲，錯誤或中斷；（iii）閣下由AATV中節目內容招致任何損失。

我們保留權利不時更改本免責聲明並於本網站／應用程式刊登更新版本。閣下必須定期查閱於本網站／應用程式刊登的資訊，以確保您即時知悉任何有關的改動。如閣下於本免責聲明更新後仍繼續使用本網站／應用程式，即代表閣下同意接受更改後的本免責聲明的約束。

本免責聲明應受中華人民共和國香港特別行政區(「香港」)法律管限。閣下同意接受香港法院的專屬司法管轄權管轄。

本免責聲明的中英原文如有任何岐異，一切以英文原文為準。

更新日期為: 2020年3月11日

Let's block ads! (Why?)

August 31, 2020 at 01:58PM
https://ift.tt/2QAvduu

恆指蒸發425點所有升幅倒跌四大藍籌內銀績後續捱沽齊尋底 - 阿斯達克財經網

https://ift.tt/3fwtXTu

서울시 의무관리 아파트 전체 내년부터 전자결재 - 아파트관리신문

terindexbanyak.blogspot.com

문서 생산‧결재‧공개 등 기능

올해 250개 단지 시범운영 후
내년부터 의무단지 전체 확대

[아파트관리신문=서지영 기자] 서울시 내 의무관리대상 아파트 전체가 내년부터 관리 관련 서류를 모두 전자화하고, 전자결재로 업무를 처리하게 된다.

서울시는 아파트 관리 업무의 투명성과 효율성 제고를 위한 ‘전자결재 기반 S-APT 플랫폼’(s-apt.seoul.go.kr) 구축을 최근 완료했다. 아파트 내 주민 의사결정을 비대면‧온라인 전자결재로 하고 그 내용을 온라인으로 투명하게 공개하며, 재난상황 발생 시에는 즉시 정보제공까지 가능한 온라인 종합 플랫폼이다.

이를 통해 그동안 관리사무소에서 수기로 작성‧보관해왔던 종이문서를 100% 전자화하고, 아파트마다 천차만별이었던 문서 양식을 통일한다. 문서 생산부터 결재, 보관, 공개까지 플랫폼을 통해 이뤄진다. 구청에서 아파트로 공문 등을 보낼 때도 팩스나 등기 대신 전자문서를 이용하기 때문에 업무처리속도가 훨씬 빨라진다. 입주민은 PC나 스마트폰만 있으면 입주자대표 회의록 같은 문서를 간편하게 볼 수 있다.

서울시는 이번에 구축한 플랫폼을 무료로 보급한다. 26일부터 총 250개 단지에 시범도입하며, 내년부터는 의무관리대상 아파트 단지 2500개 전체를 대상으로 전재결재시스템 사용을 의무화한다. 의무관리대상 아파트는 공동주택관리법에 따라 공동주택을 전문적으로 관리하는 자를 두고 자치 의결기구를 의무적으로 구성해야 하는 등 일정한 의무가 부과되는 공동주택이다. ▲300세대 이상 공동주택 ▲승강기가 있는 150세대 이상 공동주택 ▲중앙난방을 사용하는 150세대 이상 공동주택이 해당된다.

시범도입 대상은 서초구 내 250개 단지로 플랫폼의 모든 기능을 운영하며 보완점을 집중적으로 점검할 계획이다.

서울시는 시범운영에 앞서 지난 3년간 시범사업에 참여했던 9개 단지를 대상으로 8월부터 2가지 기능(전자결재시스템, 정보공개시스템)에 대한 서비스 제공을 시작했다.

‘S-APT’는 3S(▲Seoul(서울) ▲Smart(스마트) ▲Safety(안전))를 의미하며, 4가지 핵심기능인 ▲아파트 전자결재 시스템 ▲전자문서 공개 시스템 ▲지자체와 아파트 단지 간 문서유통 시스템 ▲재난상황 전파 시스템으로 구성돼 있다.

서울시 'S-APT 플랫폼' 기능. <이미지제공=서울시청>

아파트 전용의 전자결재 시스템은 시스템의 기능과 내용을 단순화하고 직관적으로 구성해 실제 사용자인 입주민, 입주자대표회의, 관리주체가 거부감 없이 쉽고 편하게 사용할 수 있다. 아파트마다 천차만별이던 문서를 정리해 통일된 문서양식을 제공해 신속한 의사결정을 돕고 관리업무를 효율적으로 수행할 수 있도록 했다.

전자문서 공개 시스템은 전자결재 시스템을 통해 이뤄진 의결사항을 입주민 누구나 PC나 스마트폰으로 확인할 수 있다. 관리비와 같은 의무공개 자료는 ‘서울시 공동주택 통합정보마당’과 연계해 서울시민 누구나 볼 수 있도록 했다. 특히 정보공개 시 2단계 심사를 거쳐 사전에 개인정보 누출을 사전에 막아 보안에 철저를 기했다.

문서유통 시스템은 지자체와 아파트 간의 문서 수‧발신 방식을 혁신적으로 탈바꿈했다. 현재 지자체와 아파트 간의 문서 수‧발신은 전통적 방식의 팩스나 우편등기에서 벗어나지 못하고 있어 업무처리에 많은 시간이 소요되고, 인력도 비효율적으로 운영하고 있다. 전자문서 체계로 바뀌면 신속하고 정확한 업무처리로 효율성이 높아지는 것은 물론 관리비 절감 등의 효과까지 볼 수 있다.

재난상황 전파 시스템은 태풍, 홍수, 미세먼지, 코로나19 등 각종 재난상황 발생 시 위험경보를 신속‧정확하게 실시간으로 전파하는 기능이다. 시가 S-APT 플랫폼으로 안내 문자를 발송하면 아파트에서는 수신과 동시에 내부방송을 할 수 있도록 텍스트가 자동으로 음성으로 변환되도록 했다. 사용자의 편의성을 증대는 물론 빠르고 정확한 재난정보 제공해 시민의 안전을 지키고 시민 협조와 참여를 유도하기 위한 취지다.

서울시는 9월 1일부터는 25개 자치구와 협조해 의무관리대상 약 2500단지를 대상으로 2차 참여 신청을 받아 서비스 확대에 속도를 낼 예정이다.

2021년부터는 서비스를 희망하는 소규모 아파트 단지 및 SH 임대아파트 등에도 확대해 제공한다는 계획이다.

서비스 조기 안착을 위해 지하철, 버스 등 다양한 매체를 활용해 생활밀착형 홍보를 실시한다. 또 서울시 4개 권역별 찾아가는 사업설명회, 사용자 교육 등도 추진해 시스템의 안정성을 확보하고 사전에 문제점을 발굴해 개선할 예정이다.

이후에도 교육 동영상을 제작해 보급하고 공동주택 주민학교 강의를 신설한다. 대한주택관리사협회와 LH공동주택중앙관리지원센터가 주관하는 주택관리사 보수교육과 입주자대표회의 의무교육에서 필수과정으로 지정하는 등 전자결재시스템 직무능력을 향상시킬 수 있도록 지원할 예정이다.

한편 서울시는 아파트 관리비리 근절과 분쟁 예방을 위해 2013년부터 ‘맑은아파트 만들기’ 사업을 통해 관리비 공개, 층간소음 예방, 실태조사, 공동체 활성화사업 등을 추진해왔다.

그 일환으로 아직도 종이문서에 의존하고 있는 아파트 관리 업무에 대한 주민들의 불신과 갈등을 해소하기 위해 2017년부터 3년간 시범사업(10개 단지)을 통해 전자문서 제도화를 위한 기반을 마련했다. 지난해 2월에는 ‘서울시 공동주택 관리규약준칙’을 개정해 2021년부터 의무관리대상 아파트 단지의 전자결재 시스템 사용을 의무화했다. 10월부터는 플랫폼 개발에 들어가 약 10개월의 대장정 끝에 지난 7월 31일 구축을 완료했다.

서울시 김성보 주택건축본부장은 “전자결재 기반 S-APT 플랫폼은 서울시가 지난 7년간 펼쳐온 ‘맑은 아파트 만들기’ 실천 노력을 한 곳에 담은 비대면 아파트 종합 플랫폼으로, 이제 대한민국 아파트 관리의 혁신은 ‘전자결재 기반 S-APT 플랫폼’에서 시작될 것”이라며 “서울시는 스마트 아파트 실현을 위해 최선의 노력을 다하는 한편, 시민들의 편의를 확대하기 위해 앞으로도 계속해서 시민들의 의견을 수렴하고 더 많은 서비스를 지속적으로 개발하겠다”고 말했다.

Let's block ads! (Why?)

August 31, 2020 at 02:27PM
https://ift.tt/34K2ziR

서울시 의무관리 아파트 전체 내년부터 전자결재 - 아파트관리신문

https://ift.tt/2YvgG6T

【毋忘831】大坑冰室所有菜式一律賣$83.1 只限今晚 - 香港蘋果日報

terindexbanyak.blogspot.com

一年前的8月31日，太子站爆發嚴重暴力事件，至今真相仍然未明。為了令同路人繼續關注真相，不少團體、餐廳今天都舉行紀念活動。大坑以鹹蛋黃肉餅聞名的民聲冰室，就宣佈今晚所有菜式一律賣83.1元，還會送白飯。

意義令人難忘，價錢亦抵，因為平時光顧小店，一份叠得如山高的鹹蛋肉餅飯賣98元，其他小菜如膏蟹蒸肉蛋($95)、鮮帶子蒸豆腐($89)，加白飯還要多8元，賣83.1元就大約平了兩成。同路人要多多支持了。

民聲冰室

地址：大坑浣紗街16號地下

電話：6902 2688

營業時間：11:30am-10pm

詳情︰https://bit.ly/2Z5YQbR

-----------------------------

工作辛勞想食餐好？《飲食男女》每日為大家示範三餸一湯

為你的住家飯帶來一點不平凡！

-----------------------------

《蘋果》英文版免費試睇：了解更多

英文版已登錄《蘋果》App，立即下載/ 更新：iOS / Android

-----------------------------

《本土情味》結集《飲食男女》雜誌經典欄目「老字號」文章，記錄香港40家飲食老店的動人故事，見證香港飲食史的甜酸苦辣。即日起，於各大便利店及書報攤有售，並於《蘋果日報》你的優惠網上獨家發售！

Let's block ads! (Why?)

August 31, 2020 at 02:08PM
https://ift.tt/32yLxBi

【毋忘831】大坑冰室所有菜式一律賣$83.1 只限今晚 - 香港蘋果日報

https://ift.tt/3fwtXTu

Sunday, August 30, 2020

หุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดหุ้นเช้า ปรับขึ้น 3.57 ดัชนีอยู่ที่ 1,326 จุด - ไทยรัฐ

terindexbanyak.blogspot.com

หุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดหุ้น ช่วงเช้า ปรับขึ้น 3.57 ดัชนีอยู่ที่ 1,326.88 จุด มูลค่าการซื้อขาย 20,132.88 ล้านบาท

การเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือหุ้นไทยวันนี้ ประจำวันที่ 31 ส.ค. 63 ช่วงครึ่งวันเช้า พบว่า ดัชนีปรับขึ้น 3.57 จุด เปลี่ยนแปลง -0.27% ดัชนีอยู่ที่ 1,326.88 จุด มูลค่าการซื้อขาย 20,132.88 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขาย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) 4. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 5. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน).

อ่านเพิ่มเติม...

Let's block ads! (Why?)

August 31, 2020 at 12:39PM
https://ift.tt/2YMi1Y0

หุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดหุ้นเช้า ปรับขึ้น 3.57 ดัชนีอยู่ที่ 1,326 จุด - ไทยรัฐ
https://ift.tt/3eDfmFv
Home To Blog

서울대 전공의들 “업무개시명령 불응…전체 전공의·전임의 90%가량 사직서 제출” - KBS뉴스

terindexbanyak.blogspot.com

전국 전공의들이 집단 휴진을 이어가기로 한 가운데 서울대학교병원의 전공의와 전임의들도 정부의 업무개시명령에 불응해 오늘(31일) 오전 단체로 사직서를 제출했습니다.

서울대학교병원 전공의협의회 비상대책위원회는 오늘 오전 서울 종로구 서울대병원 의학연구혁신센터에서, "정부의 업무개시명령에 불응해 업무 중단과 함께 단체로 사직서를 제출하기로 했다"고 밝혔습니다.

이들에 따르면 오늘 오전 11시 기준 서울대병원 본원, 보라매병원, 분당서울대병원 등 3개 병원의 전공의 953명 가운데 93.9%에 해당하는 895명이, 서울대병원 본원의 전임의 281명 가운데 87.9%에 해당하는 247명이 사직서를 제출했습니다.

백창현 서울대병원 전공의협의회 비대위원장은 "코로나19 관련 의료행위나 응급실·중환자실 근무를 계속하며 대화를 이어가려던 전공의를 외면하고 정부는 업무개시명령과 고발 조치로 일관했다"며, "정부가 진정성 있는 자세로 사태 해결의 뜻을 밝힐 때까지 항거할 것을 다시 한 번 천명한다"고 밝혔습니다.

[사진 출처 : 연합뉴스]

Let's block ads! (Why?)

August 31, 2020 at 09:58AM
https://ift.tt/3hJmyBT

서울대 전공의들 “업무개시명령 불응…전체 전공의·전임의 90%가량 사직서 제출” - KBS뉴스

https://ift.tt/2YvgG6T

เช้าวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดที่ 1,328.70 จุด เพิ่มขึ้น 5.39 จุด หรือ 0.41% - efinanceThai

terindexbanyak.blogspot.com

[unable to retrieve full-text content]

เช้าวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดที่ 1,328.70 จุด เพิ่มขึ้น 5.39 จุด หรือ 0.41% efinanceThai
August 31, 2020 at 10:00AM
https://ift.tt/31ME9Dz

เช้าวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดที่ 1,328.70 จุด เพิ่มขึ้น 5.39 จุด หรือ 0.41% - efinanceThai
https://ift.tt/3eDfmFv
Home To Blog

한끼용 소포장 김치 인기 상승…전체 매출액 28% 차지 - KBS WORLD Radio News

terindexbanyak.blogspot.com

Photo : YONHAP News

200g 이하 소포장 김치와 무김치, 파김치 등 다양한 종류의 김치가 인기를 얻고 있는 것으로 나타났습니다.

한국농수산식품유통공사(aT)가 발간하는 '식품시장 뉴스레터'에 따르면 지난해 200g 이하 소포장 김치 매출액은 728억2천300만 원으로 전체 김치 매출액의 28.0%를 차지했습니다.

소포장 김치 매출액은 2017년 578억5천700만 원에서 2018년 681억5천만 원, 2019년 728억2천300만 원으로 증가세를 이어가고 있다.

같은 기간 201∼1천g과 1천1∼2천999g 김치의 매출 비중은 각각 17.6%에서 16.7%로, 29.4%에서 28.9%로 각각 떨어졌다.

3천g 이상 대용량 김치 매출액은 소포장과 마찬가지로 2017년 534억7천700만 원, 2018년 671억5천900만 원, 2019년 686억9천100만 원으로 늘었습니다.

전체에서 차지하는 비중 역시 2015년 25.4%에서 2019년 26.4%로 상승했습니다.

aT는 "편의점에서 라면 등과 곁들여 먹는 소용량 김치의 수요와 가정에서의 김장김치를 대체하는 대용량 김치 수요가 함께 증가하는 것으로 분석된다"고 설명했습니다.

김치 종류별 매출을 보면 배추김치가 여전히 절대적이지만 다양한 종류의 김치를 찾는 소비자가 서서히 늘고 있는 것으로 파악됐습니다.

지난해 배추김치 매출액은 2천46억5천200만 원으로 전체의 78.7%에 달했으나 2017년 83.8%, 2018년 80.6% 등과 비교하면 비중이 점차 감소해 80% 아래로 내려갔습니다.

이와 달리 무김치류 매출액 비중은 2017년 8.4%에서 2019년 10.7%로 늘었고, 기타 김치류(물김치·파김치·오이 김치 등) 역시 7.8%에서 10.6%로 늘었습니다.

한편 국내 김치 생산량은 2018년 기준 46만 6천837t으로 매년 꾸준히 늘며 5년 새 11.4% 증가했습니다.

이는 김장을 하지 않는 가구가 늘어나면서 포장김치를 사는 소비 행태가 확대되는 데 따른 것으로 보인다고 aT는 분석했습니다.

Let's block ads! (Why?)

August 31, 2020 at 07:27AM
https://ift.tt/3hUH2HG

한끼용 소포장 김치 인기 상승…전체 매출액 28% 차지 - KBS WORLD Radio News

https://ift.tt/2YvgG6T

หุ้นไทยวันนี้ (31 ส.ค.) เปิดตลาด +6.98 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,330 จุด - ประชาชาติธุรกิจ

terindexbanyak.blogspot.com

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (31 ส.ค.) ดัชนี SET Index เปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 1,330.29 จุด ปรับขึ้น +6.98 จุด หรือคิดเป็น +0.53% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 3,962 ล้านบาท ณ เวลา 10:05:05 น.

ขณะที่ดัชนี SET50 ปรับขึ้น +5.42 จุด หรือ +0.63% อยู่ที่ 860.71 จุด โดยมีมูลค่าซื้อขายรวม 1,627 ล้านบาท (คิดเป็นราว 41.06% ของ SET)

10 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าซื้อ-ขายโดดเด่นที่สุด ได้แก่

1. BAM ซื้อขาย 879.18 ล้านบาท ราคาหุ้น -1.10 บาท (-4.49%)
2. SCC ซื้อขาย 181.59 ล้านบาท ราคาหุ้น +11.00 บาท (+3.21%)
3. PTT ซื้อขาย 164.03 ล้านบาท ราคาหุ้น +0.25 บาท (+0.68%)
4. MINT ซื้อขาย 152.77 ล้านบาท ราคาหุ้น -0.10 บาท (-0.43%)
5. ASIAN ซื้อขาย 152.59 ล้านบาท ราคาหุ้น +0.10 บาท (+0.96%)
6. CPALL ซื้อขาย 107.31 ล้านบาท ราคาหุ้น +0.75 บาท (+1.18%)
7. BBL ซื้อขาย 85.30 ล้านบาท ราคาหุ้น +2.00 บาท (+1.87%)
8. STA ซื้อขาย 76.62 ล้านบาท ราคาหุ้น +0.50 บาท (+1.96%)
9. PTTEP ซื้อขาย 69.28 ล้านบาท ราคาหุ้น +0.75 บาท (+0.84%)
10. STGT ซื้อขาย 68.53 ล้านบาท ราคาหุ้น +0.25 บาท (+0.36%)

ส่วนตลาด mai ปรับขึ้น +1.21 จุด หรือ +0.39% ในทิศทางเดียวกัน อยู่ที่ระดับ 311.98 จุด มูลค่าซื้อขาย 248.85 ล้านบาท

Let's block ads! (Why?)

August 31, 2020 at 10:07AM
https://ift.tt/2DccNNq

หุ้นไทยวันนี้ (31 ส.ค.) เปิดตลาด +6.98 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,330 จุด - ประชาชาติธุรกิจ
https://ift.tt/3eDfmFv
Home To Blog

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าขึ้นตามตปท. - อาร์วายที9

terindexbanyak.blogspot.com

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวกกัน เช่นเดีวกับดาวโจนส์ที่บวกไปกว่า 100 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และเช้านี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ยังบวกได้ดี ทั้งนี้เป็นผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดแรงหนุนในการเก็งกำไรสินทรัพย์เสี่ยง

โดยหลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงถึงการเปิดทางให้เงินเฟ้อมีโอกาสสูงขึ้นมากกว่าเดิม ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังไม่รีบปรับขึ้น ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแสดงทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง และข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯก็ออกมาดีกว่าตลาดคาดด้วย ทั้งนี้เช้านี้สกุลเงินในเอเชียต่างแข็งค่าขึ้น ทำให้ Fund Flow ไหลเข้ามาในเอเชีย แต่ก็ยังบอกไม่ได้ว่าจะเข้ามาที่ตลาดหุ้นไทยด้วยหรือไม่ โดยอัตราผลอตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของไทยก็พุ่งขึ้นด้วย ซึ่งเป็นแรงขายบอนด์ออกมา แต่ก็ยังบอกไม่ได้ว่าจะเข้ามาซื้อหุ้นหรือไม่

นอกจากนี้การปรับน้ำหนักลงทุนของ MSCI ซึ่งมีผลในวันนี้ โดยหุ้นไทยถูกปรับน้ำหนักลง 22 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้อาจได้เห็นวอลุ่มเทรดโป่งได้ในช่วงท้ายตลาด และให้ติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ ในเรื่องการชุมนุมทางการเมือง

พร้อมให้แนวรับ 1,320-1,315 จุด ส่วนแนวต้าน 1,330-1,337 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,653.87 จุด เพิ่มขึ้น 161.60 จุด (+0.57%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,508.01 จุด เพิ่มขึ้น 23.46 จุด (+0.67%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,695.63 จุด เพิ่มขึ้น 70.30 จุด (+0.60%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 264.49 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 12.74 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 310.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 34.59 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 23.29 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 17.81 จุด

ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันชาติ

ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ส.ค.63) 1,323.31 จุด ลดลง 3.50 จุด (-0.26%)
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,815.47 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ส.ค.63
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 ส.ค.63) ปิดที่ 42.97 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.2%
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ส.ค.) อยู่ที่ -0.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 31.07 แข็งค่าจากสัปดาห์ก่อน ตลาดจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้กรอบวันนี้ 31.00-31.15
สมาคมโฆษณาดิจิทัลชี้ ปี 63 สื่อโฆษณาดิจิทัลโตดีเกินคาด แม้โควิดฉุดภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาแสนล้านวูบรอบ 20 ปี แต่สื่อดิจิทัลคาดยังโต 0.5% แพลตฟอร์ม "เสริช-วิดีโอออนไลน์-โซเชียล" โกยเงิน คาดโควิดจบ โฆษณาดิจิทัลกลับมาโต 2 หลัก เหตุสินค้ารุดกระตุ้นยอดขาย "เอ็มไอ" ยกดิจิทัลสื่อทรงอิทธิพลต่อผู้บริโภค
บอร์ด รฟม. สั่งเจรจาบริษัท อีสเทิร์นบางกอกโมโนเรล จำกัด(EBM) ขยาย "สีเหลือง" เชื่อมสีเขียว สัญญาต้องเปิดให้เจรจาชดเชยผลกระทบ MRT ชี้เป็นความเสี่ยง ให้เวลาถึงเปิดเดินรถ ก.ค. 65
ออมสินเคาะ 15,000 ล้านบาท จัดซอฟต์โลน ช่วยธุรกิจท่องเที่ยวจากผลกระทบโควิด-19 รวม 2 โครงการ ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการไม่เกิน 20 ล้านบาท คิดดอกเบี้ย 2% และกลุ่มเอสเอ็มอีไม่เกิน 5 แสนบาท ดอกเบี้ย 3.99% เริ่มเปิดยื่นกู้ ก.ย.นี้
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)รายงานมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ สะสมตั้งวันที่ 1 มกราคม-28 สิงหาคม 2563 พบว่านักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 79,735.41 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์)ขายสุทธิ 202.72 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 248,076.89 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ (รายย่อย) ซื้อสุทธิ 168,544.19 ล้านบาท
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) วิเคราะห์สถานการณ์ล่าสุดของภาคการท่องเที่ยวไทย พบว่า การท่องเที่ยวในประเทศเริ่มฟื้นตัวได้บ้างโดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวที่ใกล้กรุงเทพฯ แต่ในภาพรวมยังคงต่ำกว่าระดับช่วงก่อนการ lockdown อยู่มาก และยังมีแนวโน้มอ่อนไหวต่อความเสี่ยงของการระบาดระลอกที่ 2 ของโควิด-19

*หุ้นเด่นวันนี้

BAM (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 28.50 บาท แม้ผลประกอบการ Q2/63 จะออกมาอ่อนตัวกว่าที่คาด แต่แนวโน้มครึ่งปีหลังกำไรจะปรับตัวดีขึ้น หลังกรมบังคับคดีกลับมาเปิดดำเนินการ ขณะที่ยังมีโปรโมชั่นในการขาย NPA ซึ่งคาดว่าจะช่วยเร่งการขายได้ อีกทั้งมีการประเมินด้านผลประโยชน์ทางภาษี (DTA) ใหม่ ทำให้ผลประโยชน์ทางภาษีที่เหลืออยู่สุทธิอยู่ที่ 5 พันล้านบาท โดยบริษัทมีนโยบายจะรับรู้รายการดังกล่าวให้ได้มากที่สุดในปีนี้
M (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 71 บาท ยืนยันมุมมองเดิมว่าผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน Q2/63 หลังเริ่ม Reopen และทำให้จำนวนลูกค้ากลับมาเข้าร้านมากขึ้น โดย SSSG ติดลบน้อยลงเหลือราว 15-17% Y-Y เทียบกับ Q2/63 ที่ -50% Y-Y โดยคาดว่า M จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรบางๆใน Q3/63 และดีขึ้นต่อเนื่องใน Q4/63 โดยคาดกำไรทั้งปี 2563 หดตัวแรง -59 Y-Y แต่คาดพลิกมาเติบโต +144% Y-Y ในปี 2564 กลับมาใกล้กำไรปี 2562 และมีจุดแข็งคือฐานะการเงินที่ดี ไม่มีหนี้ที่มีดอกเบี้ย เปิดโอกาสให้เกิดดีล M&A ในอนาคต
BDMS (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 23.5 บาท ได้ Sentiment บวกจากภาครัฐผ่อนคลายเกณฑ์ Medical Tourists โดยเพิ่มจำนวนประเทศที่สามารถเข้ามารักษาพยาบาลตามโปรแกรม AHQ (ต้องกักตัวในโรงพยาบาล 14 วัน) จากเดิม 3 ประเทศ เป็น 138 ประเทศ

Let's block ads! (Why?)

August 31, 2020 at 09:28AM
https://ift.tt/3lAHmh2

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าขึ้นตามตปท. - อาร์วายที9
https://ift.tt/3eDfmFv
Home To Blog

中 전문가들 "美 화웨이 제재, 중국 경제 전체에 영향 미칠 것" - 조선비즈

terindexbanyak.blogspot.com

입력 2020.08.31 11:48

"미국의 화웨이 제재로 중국경제 타격"
"화웨이 대신할 중국 기업은 없어"

중국 최대 통신장비업체인 화웨이에 대한 미국의 집중 제재로 ‘중국의 실리콘밸리’로도 불리는 광둥(廣東)성 선전시의 경제는 물론 중국 경제 전체가 영향을 받을 것이라는 전망이 나왔다.

이와 관련해 홍콩 사우스차이나모닝포스트(SCMP)는 31일 중국의 전문가들을 인용, 미국의 화웨이에 대한 제재는 화웨이 본사가 있는 선전시뿐만 아니라 중국 전체 경제에 영향을 미칠 것이라고 전했다.

지난 26일로 경제특구 지정 40주년을 맞은 선전시는 중국의 개혁·개혁 개방 1번지이자 첨단기술의 허브다. 화웨이와 중국 최대 IT(정보통신) 기업인 텐센트(騰迅·텅쉰)를 비롯해 대형 통신장비업체인 ZTE(중싱), 세계 최대 드론 제조업체인 DJI(다장), 전기차 업체 BYD(비야디) 등이 선전에 본사를 두고 있다.

선전에 있는 당대사회관찰연구소의 류카이밍(劉開明) 소장은 SCMP 인터뷰에서 "중국에 화웨이를 대신해 중국의 기술과 세계화를 이끌만한 다른 기업은 없다"고 결론내렸다. 화웨이가 미국의 제재를 견딜 수 없다면 다른 중국 기업들은 말할 것도 없다는 이야기다.

광둥성 정부에 자문하는 싱크탱크인 광둥 체제 개혁 연구회의 펑펑(彭鵬) 부회장은 화웨이 제재가 중국 전역에 부정적인 영향을 미칠 것이라면서 이는 중국의 글로벌 기업들이 더는 환영받지 못한다는 신호라고 해석했다.

개혁·개방 이전까지만 해도 작은 어촌에 불과했던 선전시는 특구지정 이후 중국의 개혁·개방을 이끌면서 인구 1천300여만명의 첨단기술 허브로 도약했다

선전시의 경제 규모는 광둥성 성도인 광저우(廣州)는 물론 홍콩보다 크다. 작년 말 기준 선전시의 국내총생산(GDP)은 3900억달러(약 465조원)로, 광저우와 주하이의 GDP를 합친 것과 비슷하다.

그런데도 화웨이가 선전시 경제에서 차지하는 비중은 절대적이다. 선전시 통계국의 자료에 따르면 화웨이는 2016년 기준 선전시 GDP의 7%를 차지했다.

화웨이의 협력업체와 식당, 레저, 보건 등 화웨이와 관련이 있는 서비스 부문까지 포함하면 화웨이가 선전시의 경제에 미치는 영향을 더욱 커진다.

화웨이는 칭화(淸華)대, 베이징(北京)대, 저장(浙江)대, 푸단(復旦)대 등 중국 명문대 출신을 가장 많이 고용하는 기업이기도 하다.

미국은 중국의 안보 위협을 이유로 지난 9월부터 화웨이와 화웨이 자회사들이 미국산 장비와 소프트웨어를 사용해 만든 반도체 제품을 구매할 수 없도록 규제하는 등 화웨이에 대한 제재 강도를 높이고 있다.

화웨이의 임직원 19만4천여명 가운데 절반 이상이 R&D 분야에 종사하고 있다.

Let's block ads! (Why?)

August 31, 2020 at 09:48AM
https://ift.tt/32Cph9O

中 전문가들 "美 화웨이 제재, 중국 경제 전체에 영향 미칠 것" - 조선비즈

https://ift.tt/2YvgG6T

'นิกเคอิ' พุ่งกว่า 400 จุด หนุน 'ดัชนีหุ้นเอเชีย' ทำนิวไฮรอบ 2 ปี - thebangkokinsight.com

terindexbanyak.blogspot.com

ดัชนีนิกเคอิ นำตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ (31 ส.ค.) หลัง “เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์” เข้าซื้อหุ้นในบริษัทเทรดดิ้่งท้องถิ่น แต่นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ทางการเมืองในญี่ปุ่นอยู่ หลัง “ชินโซ อาเบะ” ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 23,326.65 จุด พุ่งขึ้น 444.00 จุด หรือ 1.94% ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงที่ 25,732.49 จุด ทะยานขึ้นมา 310.43 จุด หรือ 1.22% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนที่ 3,403.81 จุด เพิ่มขึ้น 53.69 จุด หรือ 1.60% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ที่ 2,554.68 จุด บวก 15.05 จุด หรือ 0.59%

ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 ส.ค.) ที่ 28,653.87 จุด เพิ่มขึ้น 161.60 จุด หรือ 0.57%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,508.01 จุด เพิ่มขึ้น 23.46 จุด หรือ 0.67% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 11,695.63 จุด เพิ่มขึ้น 70.30 จุด หรือ 0.60%

การทะยานขึ้นของตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ ในเอเชีย ทำให้ช่วงเช้านี้ ดัชนีเอ็มเอสซีไอ เอเชีย แปซิฟิก นอกตลาดญี่ปุ่น ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสุงสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 เป็นต้นมา

ขาขึ้นของนิกเคอิ ได้แรงหนุนหลักจากการทะยานขึ้นของบริษัทเทรดดิ้ง 5 ราย รวมถึง มิตซูบิชิ คอร์ป อิโตชู คอร์ป มารุเบนิ คอร์ป มิตซุย แอนด์ โค และสุมิโตโม คอร์ป หลังจากที่ “เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์” กลุ่มบริษัทของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุน ประกาศว่าได้เข้าถือหุ้นในบริษัทเหล่านี้มากกว่า 5%

วันนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจด้านบวกของญี่ปุ่น โดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคมปรับตัวขึ้น 8% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน ส่วนดัชนีการผลิตที่โรงงาน และเหมืองแร่ อยู่ที่ระดับ 86.6 ในเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน ซึ่งอยู่ที่ 80.8 ดัชนีการขนส่งภาคอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% แตะระดับ 85.3 และดัชนีสินค้าคงคลังในภาคอุตสาหกรรม ลดลง 1.6% แตะที่ 99.2

อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ทางการเมืองของญี่ปุ่นอยู่ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ประกาศลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โดยพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) พรรครัฐบาลญี่ปุ่น มีแนวโน้มที่จะเลือกผู้นำคนใหม่ ระหว่างวันที่ 13-15 กันยายนนี้

ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดเอเชีย ช่วงเช้านี้ ขยับขึ้นเล็กนอ้ย โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.39% ที่ 45.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ปรับขึ้นมา 0.26% ที่ 43.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Add Friend Follow

Let's block ads! (Why?)

August 31, 2020 at 09:05AM
https://ift.tt/3lAM5PM

'นิกเคอิ' พุ่งกว่า 400 จุด หนุน 'ดัชนีหุ้นเอเชีย' ทำนิวไฮรอบ 2 ปี - thebangkokinsight.com
https://ift.tt/3eDfmFv
Home To Blog

Apple : La fête du split en Bourse pour Tesla et Apple - BFM Bourse

terindexbanyak.blogspot.com

(BFM Bourse) - Dès lundi, le cours de Tesla sera divisé par cinq et celui d'Apple par quatre. Gros coup de mou pour ces vedettes de la cote américaine? Pas du tout: les deux entreprises procèdent à un stock split, qui permet de ramener le cours unitaire à un niveau un peu plus accessible.

Apple et Tesla vont procéder à un "split" lundi. Une division du nominal qui revient, comme son nom l'indique, à fractionner une action en d'autres actions d'un cours unitaire moins onéreux. Ainsi, pour chaque action Apple détenue auparavant, les investisseurs recevront dès lundi trois titres supplémentaires pour une action déjà en portefeuille (soit 4 titres au total), mais la valeur de chacune sera divisée par quatre. Le montant total investi reste donc inchangé. La variation du cours sera évidemment ajustée, en divisant par quatre le cours de clôture de vendredi. L'analogie la plus simple est d'imaginer qu'au lieu d'un billet de 20 dollars en poche, vous receviez quatre billets de 5.

Les divisions du nominal, ou stock splits, ont ainsi accompagné l'essor boursier d'Apple au fil des années. Introduite en Bourse à 22 dollars pièce en 1980, l'action portée par le succès des premiers ordinateurs personnels (l'iconique Macintosh, sorti en 1984) tutoyait les 80 dollars en avril 1987, incitant le conseil d'administration à opérer une première division par deux en juin de la même année.

La deuxième opération a beaucoup plus tardé étant donné le déclin subi par l'entreprise dans les années 1990 à la suite de l'éviction de Steve Jobs par John Sculley. Il a fallu le soutien financier de Microsoft et le rappel de Jobs en 1997, puis à partir de 1998 le succès de l'iMac -premier d'une liste de produits en "i" appelés à changer le monde- pour que l'ascension boursière d'Apple reprenne et s'accélère au tournant du millénaire avec la bulle internet. Le deuxième split est ainsi intervenu en 2000, suivi d'une troisième division par deux en 2005.

Sans les précédents splits, Apple vaudrait déjà 27.957 dollars l'action

Si Apple était déjà alors une entreprise de premier plan, le succès planétaire de l'iPhone lancé en 2007 lui a donné une dimension sans précédent et son cours de Bourse a tellement grimpé (déjà) que la quatrième division n'a pas été d'une action nouvelle pour deux anciennes mais carrément d'une pour sept anciennes !

On peut aisément calculer quel serait le cours actuel du titre sans ces splits de 1987, 2000, 2005 et 2014: au lieu de 499,23 dollars en clôture vendredi 28 août, l'action trônerait à ... 27.956,88 dollars, ceci à capitalisation strictement identique.

Le signe d'une dynamique boursière de long terme

Quant à Tesla, nouveau petit prodige de la cote (rappel: plus de 380% de hausse depuis début 2020), il s'agira du premier split de son histoire, qui n'a il est vrai débuté qu'en 2010 à Wall Street. Le groupe d'Elon Musk a choisi une parité de 5 pour 1. Tout en conservant sa valeur en termes de capitalisation et de ratio cours/chiffre d'affaires, le cours du titre sera ramené à un cinquième de ce qu'il était vendredi. À noter que rien que depuis l'annonce du projet le 11 août dernier, le cours a ajouté 50%...

Pour l'actionnaire, l'opération est totalement transparente. Pour les futurs investisseurs, cela met le titre à portée d'un plus grand nombre et permet de fractionner plus finement ses ordres le cas échéant. Mais pour autant un stock split n'est pas un non-événement: c'est avant tout un indicateur d'une forte vigueur boursière. En soi, une division du nominal est perçue comme un signal haussier, ce que tendent à confirmer les études (voir Ikenberry, Rankine et Stice, What do stock splits really signal? dans le Journal of Financial and Quantitative Analysis). Un indice, le 2-for-1 Index, a été développé dans les années 1990 pour démontrer la surperformance d'un panier d'actions ayant récemment connu un split par rapport au reste du marché. Jusqu'en 2017, un ETF permettait même de miser directement sur cet indice.

Vous suivez cette action ?

Recevez toutes les infos sur APPLE en temps réel :

Votre avis

August 30, 2020 at 12:01PM
https://ift.tt/31EmxcP

Apple : La fête du split en Bourse pour Tesla et Apple - BFM Bourse

https://ift.tt/2Vb9Mmp
Bourse

ニッセイ日経225ファンド
特徴	日経平均株価(225種・東証)に連動する
販売会社	証券会社：SBI証券楽天証券 SMBC日興証券株式会社 auカブコム証券松井証券マネックス証券岡三オンライン証券 GMOクリック証券他銀行：京都銀行、広島銀行、西日本シティ銀行他
SBI・全世界株式インデックス・ファンド
特徴	全世界の株式市場の動きに連動する
販売会社	証券会社：SBI証券楽天証券 SMBC日興証券 auカブコム証券松井証券マネックス証券岡三オンライン証券 GMOクリック証銀行：筑邦銀行
楽天・全世界株式インデックス・ファンド
特徴	全世界の株式市場の動きに連動する
販売会社	証券会社：SBI証券楽天証券 SMBC日興証券 auカブコム証券松井証券マネックス証券岡三オンライン証券 GMOクリック証他銀行：ジャパンネット銀行静岡銀行栃木銀行ソニー銀行

Pages

Monday, August 31, 2020

インデックス・ファンドとは?

インデックス・ファンドとETFの違い

インデックス・ファンドのメリット・デメリット

インデックス・ファンドのメリット

インデックス・ファンドのデメリット

初心者に最適! つみたてNISAを活用したインデックス・ファンド

長期の積み立て・分散投資に適したつみたてNISA

インデックス・ファンドはNISAにぴったりの商品

インデックス・ファンドのアセットアロケーション

アセットアロケーションとは?

アセットアロケーションの構成要素

バランスファンドという方法

インデックス・ファンドをつみたてNISAで始める

つみたてNISAの口座を開設する金融機関を選ぶ

口座を開設する

人気のある銘柄

投資初心者にもおすすめのインデックス・ファンド

Les analystes du bureau de recherche ont sélectionné 66 entreprises à travers le monde jugées attrayantes. Parmi elles, quatre valeurs françaises.

Les dernières actus du secteur dans votre boite mail. Recevez notre newsletter BOURSE.

Apple, de 2.000 dollars l'action à 500

La Bourse de Paris avançait de 0,80% à l'ouverture lundi, aidée par la progression de la Bourse du Japon dans le sillage d'indicateurs économiques plutôt bien orientés en Asie.

Sunday, August 30, 2020

10 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าซื้อ-ขายโดดเด่นที่สุด ได้แก่

Sans les précédents splits, Apple vaudrait déjà 27.957 dollars l'action

Le signe d'une dynamique boursière de long terme

Arsip Blog

Mengenai Saya